สิ่งที่คุณต้องรู้ก่อนเริ่มเขียนบทที่ 2 ทฤษฎีและการวิจัยที่เกี่ยวข้อง

บทที่ 2 ทฤษฎีและการวิจัยที่เกี่ยวข้อง เป็นบทสำคัญในวิทยานิพนธ์หรืองานวิจัย ซึ่งทำหน้าที่อธิบายแนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องที่นำไปสู่การวิจัยในปัจจุบัน สิ่งที่คุณต้องรู้ก่อนเริ่มเขียนบทที่ 2 ทฤษฎีและการวิจัยที่เกี่ยวข้อง โดยบทนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจบริบทของงานวิจัย วัตถุประสงค์ของการวิจัย และเหตุผลในการเลือกวิธีวิจัยที่ใช้

สิ่งที่คุณต้องรู้ก่อนเริ่มเขียนบทที่ 2 ทฤษฎีและการวิจัยที่เกี่ยวข้อง คุณควรทำความเข้าใจประเด็นสำคัญดังต่อไปนี้

1. วัตถุประสงค์ของบทที่ 2

วัตถุประสงค์ของบทที่ 2 คือเพื่ออธิบายแนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องที่นำไปสู่การวิจัยในปัจจุบัน บทนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจบริบทของงานวิจัย วัตถุประสงค์ของการวิจัย และเหตุผลในการเลือกวิธีวิจัยที่ใช้

บทที่ 2 จะช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจประเด็นสำคัญดังต่อไปนี้

  • ที่มาและความสำคัญของปัญหาที่ศึกษา

ควรอธิบายว่าปัญหาที่ศึกษามีความสำคัญอย่างไร และทำไมจึงควรศึกษาปัญหานี้ การศึกษาแนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องจะช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจบริบทของปัญหาที่ศึกษาและความจำเป็นในการวิจัย

  • วัตถุประสงค์ของการวิจัย

ควรอธิบายวัตถุประสงค์ของการวิจัยอย่างชัดเจน วัตถุประสงค์ของการวิจัยควรครอบคลุมประเด็นหลักที่งานวิจัยต้องการตอบคำถาม

  • กรอบแนวคิด

ควรอธิบายกรอบแนวคิดที่ใช้ในการวิจัย กรอบแนวคิดเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณกำหนดขอบเขตของงานวิจัยของคุณและอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรต่างๆ ในการศึกษาของคุณ

  • ความก้าวหน้าทางวิชาการในสาขาวิชา

ควรอธิบายความก้าวหน้าทางวิชาการในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัยของคุณ การศึกษางานวิจัยที่เกี่ยวข้องจะช่วยให้คุณเข้าใจความก้าวหน้าทางวิชาการในสาขาวิชาของคุณ และช่วยให้คุณระบุช่องว่างทางความรู้ที่งานวิจัยของคุณจะเติมเต็ม

โดยสรุปแล้ว บทที่ 2 มีความสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจบริบทของงานวิจัย วัตถุประสงค์ของการวิจัย และเหตุผลในการเลือกวิธีวิจัยที่ใช้ หากคุณเข้าใจวัตถุประสงค์ของบทที่ 2 เป็นอย่างดี คุณจะสามารถเขียนได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจงานวิจัยของคุณ

2. โครงสร้างของบทที่ 2

บทที่ 2 โดยทั่วไปจะมีโครงสร้างดังนี้

  • บทนำ
  • แนวคิด ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
  • งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
  • กรอบแนวคิด

3. เนื้อหาในบทที่ 2

เนื้อหาในบทที่ 2 ควรครอบคลุมประเด็นสำคัญดังต่อไปนี้

3.1 แนวคิด ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง

บทที่ 2 ของงานวิจัยมักเรียกว่า “แนวคิด ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง” เป็นบทที่อธิบายถึงแนวคิด ทฤษฎี หรือองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องในงานวิจัยนั้น ๆ โดยปกติแล้ว บทนี้จะเริ่มต้นด้วยการกล่าวถึงความหมายของแนวคิดหรือปรากฏการณ์ที่ศึกษา จากนั้นจึงอธิบายถึงทฤษฎีหรือกรอบแนวคิดที่เกี่ยวข้อง โดยอาจอธิบายถึงประวัติความเป็นมา ทฤษฎีหลัก ๆ ของทฤษฎีนั้น ๆ และการนำทฤษฎีนั้นมาใช้ในงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ บทนี้ยังอาจกล่าวถึงงานวิจัยที่เกี่ยวข้องทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยอาจอธิบายถึงวัตถุประสงค์ วิธีการ และผลการวิจัยของงานเหล่านั้น โดยอาจสรุปจากงานวิจัยที่เกี่ยวข้องเพื่อแสดงให้เห็นว่างานวิจัยนั้น ๆ มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานวิจัยที่กำลังศึกษาอยู่อย่างไร

โดยสรุปแล้ว เนื้อหาในบทที่ 2 ของงานวิจัยควรประกอบด้วยประเด็นสำคัญดังต่อไปนี้

  • ความหมายของแนวคิดหรือปรากฏการณ์ที่ศึกษา
  • ทฤษฎีหรือกรอบแนวคิดที่เกี่ยวข้อง
  • งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

ตัวอย่างหัวข้อย่อยที่อาจพบได้ในบทที่ 2 ของงานวิจัย ได้แก่

  • บทนำ
  • ความหมายของแนวคิดหรือปรากฏการณ์ที่ศึกษา
  • ทฤษฎีหรือกรอบแนวคิดที่เกี่ยวข้อง
  • ประวัติความเป็นมาของทฤษฎี
  • ทฤษฎีหลัก ๆ ของทฤษฎี
  • การประยุกต์ใช้ทฤษฎีในงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
  • งานวิจัยที่เกี่ยวข้องในประเทศ
  • งานวิจัยที่เกี่ยวข้องต่างประเทศ
  • สรุปจากงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

อย่างไรก็ตาม รูปแบบของบทที่ 2 อาจแตกต่างกันไปในแต่ละงานวิจัย ขึ้นอยู่กับประเภทของงานวิจัยและความต้องการของผู้วิจัย

3.2 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง


งานวิจัยที่เกี่ยวข้องเป็นบทที่อธิบายถึงงานวิจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัยที่กำลังศึกษาอยู่ งานวิจัยที่เกี่ยวข้องอาจแบ่งออกเป็นสองประเภท ได้แก่

  • งานวิจัยในประเทศ : เป็นงานวิจัยที่ดำเนินการในประเทศไทย
  • งานวิจัยต่างประเทศ : เป็นงานวิจัยที่ดำเนินการนอกประเทศไทย

งานวิจัยที่เกี่ยวข้องมีความสำคัญต่องานวิจัยที่กำลังศึกษาอยู่ เพราะช่วยให้ผู้วิจัยเข้าใจประเด็นปัญหาที่ศึกษามากขึ้น และสามารถนำผลการวิจัยอื่น ๆ มาใช้อ้างอิงเพื่อสนับสนุนผลการวิจัยของตนเองได้

ในการนำเสนองานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ผู้วิจัยควรอธิบายถึงวัตถุประสงค์ วิธีการ และผลการวิจัยของงานเหล่านั้น โดยอาจสรุปจากงานวิจัยที่เกี่ยวข้องเพื่อแสดงให้เห็นว่างานวิจัยนั้น ๆ มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานวิจัยที่กำลังศึกษาอยู่อย่างไร

ตัวอย่างการนำเสนองานวิจัยที่เกี่ยวข้อง มีดังนี้

งานวิจัยที่เกี่ยวข้องในประเทศ

  • การศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อบ้านของผู้บริโภคไทย โดย ศิริวรรณ ว่องกุศลกิจ และคณะ (2563)

งานวิจัยนี้ศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อบ้านของผู้บริโภคไทย โดยพบว่าปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือ ความสามารถในการซื้อ (affordability) รองลงมาคือ ความต้องการที่อยู่อาศัย (need for housing) และทัศนคติต่อบ้าน (attitude toward house)

  • การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความพึงพอใจของลูกค้ากับพฤติกรรมการซื้อสินค้าซ้ำ โดย พิมพวรรณ ศรีสุข และคณะ (2564)

งานวิจัยนี้ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความพึงพอใจของลูกค้ากับพฤติกรรมการซื้อสินค้าซ้ำ โดยพบว่าความพึงพอใจของลูกค้ามีความสัมพันธ์เชิงบวกกับพฤติกรรมการซื้อสินค้าซ้ำ

งานวิจัยที่เกี่ยวข้องต่างประเทศ

  • The impact of social media on consumer behavior: A review of the literature (2022) โดย Zheping Li, Rui Wang, และ Xiaoqiu Zhang

งานวิจัยนี้ทบทวนวรรณกรรมเกี่ยวกับผลกระทบของโซเชียลมีเดียต่อพฤติกรรมของผู้บริโภค โดยพบว่าโซเชียลมีเดียมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคในหลายด้าน เช่น การตัดสินใจซื้อสินค้า การค้นหาข้อมูล และการมีส่วนร่วมกับแบรนด์

  • The role of customer satisfaction in building customer loyalty: A study of the Chinese market (2023) โดย Wei Zhang, Xuesong Liu, และ Xinwei Guo

งานวิจัยนี้ศึกษาบทบาทของความพึงพอใจของลูกค้าในการสร้างความภักดีของลูกค้า โดยพบว่าความพึงพอใจของลูกค้ามีความสัมพันธ์เชิงบวกกับความภักดีของลูกค้า

โดยสรุปแล้ว งานวิจัยที่เกี่ยวข้องเป็นบทที่มีความสำคัญต่องานวิจัยที่กำลังศึกษาอยู่ เพราะช่วยให้ผู้วิจัยเข้าใจประเด็นปัญหาที่ศึกษามากขึ้น และสามารถนำผลการวิจัยอื่น ๆ มาใช้อ้างอิงเพื่อสนับสนุนผลการวิจัยของตนเองได้

3.4 กรอบแนวคิด

กรอบแนวคิด (Conceptual Framework) เป็นบทที่อธิบายถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัยนั้น ๆ กรอบแนวคิดเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ผู้วิจัยเข้าใจประเด็นปัญหาที่ศึกษามากขึ้น และช่วยให้ผู้วิจัยกำหนดวัตถุประสงค์และวิธีการวิจัยได้อย่างเหมาะสม

ในการกำหนดกรอบแนวคิด ผู้วิจัยควรพิจารณาจากแนวคิด ทฤษฎี หรือองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้อง โดยอาจใช้วิธีการทบทวนวรรณกรรม (Literature Review) เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับแนวคิด ทฤษฎี หรือองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้อง จากนั้นจึงนำมาวิเคราะห์และสังเคราะห์เพื่อกำหนดกรอบแนวคิดที่เหมาะสม

ตัวอย่างการนำเสนอกรอบแนวคิด มีดังนี้

  • การนำเสนอเป็นแผนภาพ
  • การนำเสนอเป็นตาราง
  • การนำเสนอเป็นข้อความอธิบาย

กรอบแนวคิดนี้ช่วยให้ผู้วิจัยเข้าใจว่า พฤติกรรมการบริโภคของผู้บริโภคนั้น เป็นผลมาจากปัจจัยต่าง ๆ อย่างไร และช่วยให้ผู้วิจัยกำหนดวัตถุประสงค์และวิธีการวิจัยได้อย่างเหมาะสม

โดยสรุปแล้ว กรอบแนวคิดเป็นบทที่มีความสำคัญต่องานวิจัยที่กำลังศึกษาอยู่ เพราะช่วยให้ผู้วิจัยเข้าใจประเด็นปัญหาที่ศึกษามากขึ้น และช่วยให้ผู้วิจัยกำหนดวัตถุประสงค์และวิธีการวิจัยได้อย่างเหมาะสม

4. การอ้างอิง

การอ้างอิงเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของงานวิจัย เพราะช่วยให้ผู้อ่านสามารถติดตามแหล่งที่มาของข้อมูลและแนวคิดต่าง ๆ ที่ใช้ในการวิจัยได้

การอ้างอิงอาจแบ่งออกเป็นสองประเภท ได้แก่

  • การอ้างอิงแทรกในเนื้อหา (In-text citation) : เป็นวิธีการอ้างอิงข้อมูลหรือแนวคิดต่าง ๆ โดยการระบุชื่อผู้แต่งและปีพิมพ์ไว้ในเนื้อหางานเขียน
  • การอ้างอิงท้ายเล่ม (Reference list) : เป็นรายการที่รวบรวมแหล่งที่มาของข้อมูลและแนวคิดต่าง ๆ ที่ใช้ในงานวิจัย

การอ้างอิงแทรกในเนื้อหามักใช้สำหรับข้อมูลหรือแนวคิดที่คัดลอกมาโดยตรงจากแหล่งอ้างอิง โดยระบุชื่อผู้แต่งและปีพิมพ์ไว้ในเนื้อหางานเขียน โดยอาจระบุเลขหน้าไว้ด้วยในกรณีที่ข้อมูลหรือแนวคิดดังกล่าวยาวเกินกว่า 3 บรรทัด

ตัวอย่างการอ้างอิงแทรกในเนื้อหา มีดังนี้

  • ศิริวรรณ ว่องกุศลกิจ และคณะ (2563) พบว่าปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือ ความสามารถในการซื้อ (affordability) รองลงมาคือ ความต้องการที่อยู่อาศัย (need for housing) และทัศนคติต่อบ้าน (attitude toward house)
  • Zheping Li, Rui Wang, และ Xiaoqiu Zhang (2022) พบว่าโซเชียลมีเดียมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคในหลายด้าน เช่น การตัดสินใจซื้อสินค้า การค้นหาข้อมูล และการมีส่วนร่วมกับแบรนด์

การอ้างอิงท้ายเล่มมักใช้สำหรับข้อมูลหรือแนวคิดที่สรุปหรือประมวลมาจากแหล่งอ้างอิง โดยระบุข้อมูลทั้งหมดของแหล่งอ้างอิงไว้ในรายการการอ้างอิงท้ายเล่ม

ตัวอย่างรายการการอ้างอิงท้ายเล่ม มีดังนี้

  • ศิริวรรณ ว่องกุศลกิจ, ประไพศรี สงวนวงศ์ และ ธีรพงษ์ อินทศร. (2563). ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อบ้านของผู้บริโภคไทย. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย, 30(1), 120-140.
  • Li, Z., Wang, R., & Zhang, X. (2022). The impact of social media on consumer behavior: A review of the literature. Journal of Business Research, 145, 102920.

รูปแบบการอ้างอิงอาจแตกต่างกันไปในแต่ละสาขาวิชาหรือตามรูปแบบการเขียนงานวิจัยที่กำหนด โดยผู้วิจัยควรศึกษารูปแบบการอ้างอิงที่เหมาะสมกับงานวิจัยของตนเอง

การอ้างอิงอย่างถูกต้องและครบถ้วนเป็นสิ่งสำคัญต่องานวิจัย เพราะช่วยให้ผู้อ่านสามารถติดตามแหล่งที่มาของข้อมูลและแนวคิดต่าง ๆ ที่ใช้ในการวิจัยได้ ซึ่งช่วยให้งานวิจัยมีความน่าเชื่อถือและเป็นที่ยอมรับ

เคล็ดลับในการเขียนบทที่ 2

ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับบางประการในการเขียนบทที่ 2

1. เริ่มต้นด้วยการทบทวนวัตถุประสงค์ของการวิจัยของคุณ

วัตถุประสงค์ของการวิจัยของคุณควรเป็นแนวทางในการเขียนบทที่ 2 บทนี้ควรอธิบายว่าแนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องมีความสัมพันธ์อย่างไรกับวัตถุประสงค์ของการวิจัยของคุณ

2. ใช้ภาษาที่ชัดเจนและกระชับ

ควรเขียนด้วยภาษาที่ชัดเจนและกระชับ ผู้อ่านควรสามารถเข้าใจแนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องได้โดยไม่ยาก

3. ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล

ก่อนส่งบทที่ 2 ให้อาจารย์ที่ปรึกษาของคุณ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลของคุณถูกต้องและครบถ้วน

สิ่งที่คุณต้องรู้ก่อนเริ่มเขียนบทที่ 2 ทฤษฎีและการวิจัยที่เกี่ยวข้อง หากคุณเข้าใจประเด็นสำคัญและปฏิบัติตามเคล็ดลับในการเขียนบทที่ 2 นี้ คุณจะสามารถเขียนบทที่ 2 ได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจบริบทของงานวิจัยของคุณ