การวิจัยในชั้นเรียนคืออะไร แตกต่างจากวิจัยจบอย่างไรบ้าง?

การวิจัยในชั้นเรียน หมายถึง การวิจัยที่มีขอบเขต ขั้นตอน และกระบวนการที่น้อยกว่าการวิจัยทั่วไป มุ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหาหรือพัฒนาผู้เรียนเฉพาะกลุ่มภายในห้องเรียน ครูผู้สอนเป็นผู้ดำเนินการวิจัย เน้นการนำผลไปใช้จริงเพื่อพัฒนานักเรียนให้บรรลุตามจุดประสงค์การเรียนรู้

ลักษณะสำคัญของการวิจัยในชั้นเรียน:

  • มีขอบเขตแคบ เน้นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในห้องเรียน
  • ใช้เวลาน้อย ขั้นตอนไม่ซับซ้อน
  • ดำเนินการโดยครูผู้สอน
  • เน้นการนำผลไปใช้จริง
  • ผลการวิจัยไม่สามารถนำไปอธิบายภาพรวมได้

ตัวอย่างหัวข้อวิจัยในชั้นเรียน:

  • กลยุทธ์การสอนแบบใดที่มีประสิทธิภาพต่อผลการเรียนรู้ของนักเรียน
  • กิจกรรมการเรียนรู้แบบใดที่นักเรียนสนใจและมีส่วนร่วมมากที่สุด
  • แนวทางการจัดการพฤติกรรมนักเรียนที่มีประสิทธิภาพ

การวิจัยในชั้นเรียนแตกต่างจากวิจัยจบอย่างไร?

1. วัตถุประสงค์:

  • วิจัยในชั้นเรียน: มุ่งเน้นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า พัฒนาผู้เรียนเฉพาะกลุ่ม
  • วิจัยจบ: มุ่งเน้นการสร้างองค์ความรู้ใหม่ ทดสอบทฤษฎี นำเสนอผลงานทางวิชาการ

2. ขอบเขต:

  • วิจัยในชั้นเรียน: มีขอบเขตแคบ เน้นการศึกษาในบริบทเฉพาะ
  • วิจัยจบ: มีขอบเขตกว้าง ครอบคลุมประเด็นทางวิชาการ

3. ระเบียบวิธี:

  • วิจัยในชั้นเรียน: ใช้วิธีการวิจัยที่หลากหลาย เน้นความเรียบง่าย นำไปใช้จริง
  • วิจัยจบ: ใช้วิธีการวิจัยที่เป็นมาตรฐาน เน้นความถูกต้อง แม่นยำ

4. ผลลัพธ์:

  • วิจัยในชั้นเรียน: นำผลไปใช้พัฒนาการเรียนการสอนในชั้นเรียน
  • วิจัยจบ: นำเสนอผลงานทางวิชาการ เผยแพร่ความรู้

5. ผู้ดำเนินการ:

  • วิจัยในชั้นเรียน: ดำเนินการโดยครูผู้สอน
  • วิจัยจบ: ดำเนินการโดยนักศึกษา

ตารางเปรียบเทียบ

ลักษณะการวิจัยในชั้นเรียนวิจัยจบ
วัตถุประสงค์แก้ปัญหา พัฒนาผู้เรียนสร้างองค์ความรู้ ทดสอบทฤษฎี
ขอบเขตแคบ เน้นบริบทเฉพาะกว้าง ครอบคลุมประเด็นทางวิชาการ
ระเบียบวิธีหลากหลาย เน้นความเรียบง่ายเป็นมาตรฐาน เน้นความถูกต้อง
ผลลัพธ์พัฒนาการเรียนการสอนเผยแพร่ความรู้
ผู้ดำเนินการครูผู้สอนนักศึกษา

สรุป:

การวิจัยในชั้นเรียนและวิจัยจบมีความแตกต่างกันทั้งวัตถุประสงค์ ขอบเขต ระเบียบวิธี ผลลัพธ์ และผู้ดำเนินการ การเลือกใช้วิธีการวิจัยที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับเป้าหมายและบริบทของงานวิจัย