โดยทั่วไป บทนำควรให้ภาพรวมทั่วไปของการวิจัยและควรกำหนดขั้นตอนสำหรับบทความที่เหลือ ควรมีความน่าสนใจและเข้าใจง่าย และควรสื่อถึงวัตถุประสงค์และความสำคัญของการวิจัยอย่างชัดเจน
1. เริ่มต้นด้วยการเปิดที่ดึงดูดความสนใจ: ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจหรือน่าประหลาดใจ คำถามยั่วยุ หรือเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่เกี่ยวข้องสามารถช่วยดึงดูดผู้อ่านและทำให้บทนำน่าสนใจยิ่งขึ้น
2. ระบุคำถามหรือปัญหาการวิจัยอย่างชัดเจน: ควรระบุคำถามหรือปัญหาการวิจัยอย่างชัดเจนในบทนำ เนื่องจากเป็นการกำหนดขั้นตอนสำหรับบทความที่เหลือ
3. ให้ข้อมูลบริบทและภูมิหลัง: การให้ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับหัวข้อการวิจัยสามารถช่วยในการกำหนดกรอบคำถามการวิจัยและให้บริบทสำหรับผู้อ่าน
4. อธิบายความสำคัญของการวิจัย: อธิบายว่าเหตุใดการวิจัยจึงมีความสำคัญและก่อให้เกิดความรู้ที่มีอยู่ในสาขานี้อย่างไร
5. สรุปโครงสร้างของกระดาษ: การให้ภาพรวมของโครงสร้างของกระดาษสามารถช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจการจัดระเบียบของกระดาษและสิ่งที่คาดหวัง
6. ใช้ภาษาที่ชัดเจนและกระชับ: หลีกเลี่ยงศัพท์แสงหรือคำศัพท์ทางเทคนิค และใช้ภาษาที่ชัดเจนและรัดกุมเพื่อให้เข้าใจได้ง่าย
7. ใช้วลีเปลี่ยนผ่าน: การใช้วลีเปลี่ยนผ่าน เช่น “อย่างไรก็ตาม” “นอกจากนี้” หรือ “ยิ่งกว่านั้น” สามารถช่วยเชื่อมโยงส่วนต่าง ๆ ของบทนำเข้าด้วยกันและทำให้มีความเหนียวแน่นมากขึ้น
8. เกริ่นนำให้กระชับ: เกริ่นนำควรกระชับและเน้นย้ำ และไม่ควรลงรายละเอียดมากเกินไป ควรให้ภาพรวมทั่วไปของการวิจัย แทนที่จะเจาะจงเฉพาะเจาะจงของการศึกษา
ช่องทางติดต่อ
Tel: 0924766638 คุณอาจุ้ย
อีเมล: ichalermlarp@gmail.com
LINE: @impressedu
(หยุดทุกวันอาทิตย์)