การสร้างแบบจำลองสมการโครงสร้าง (SEM) เป็นวิธีการทางสถิติที่ใช้ในการตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างชุดของตัวแปร SEM เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างตัวแปรต่างๆ และมักใช้ในการบริหารงานบุคคลเพื่อศึกษาทัศนคติและพฤติกรรมของพนักงาน
ตัวอย่างเช่น นักวิจัยอาจใช้ SEM เพื่อตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างความพึงพอใจในงานของพนักงาน ความผูกพันของพนักงาน และความผูกพันต่อองค์กร ผู้วิจัยจะใช้ขั้นตอนต่อไปนี้ในการดำเนินการ SEM:
- ผู้วิจัยรวบรวมข้อมูลความพึงพอใจในงานของพนักงาน ความผูกพันของพนักงาน และความผูกพันต่อองค์กรจากกลุ่มตัวอย่างพนักงานในองค์กร
- ผู้วิจัยใช้ซอฟต์แวร์ทางสถิติ เช่น AMOS หรือ Mplus เพื่อระบุแบบจำลองสมการโครงสร้างที่อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรต่างๆ โมเดลประกอบด้วยตัวแปรแฝง (ตัวแปรที่ไม่ได้สังเกต) ที่เกี่ยวข้องกับตัวแปรที่สังเกตได้ (เช่น ความพึงพอใจในงาน ความผูกพัน ความมุ่งมั่น)
- ผู้วิจัยประเมินแบบจำลองโดยใช้ข้อมูลตัวอย่าง จากนั้นประเมินแบบจำลองโดยใช้ดัชนีความพอดีต่างๆ เช่น Chi-square, CFI, RMSEA และ SRMR
- ผู้วิจัยตีความผลลัพธ์ของแบบจำลอง รวมถึงการโหลดแฟกเตอร์ ค่าสัมประสิทธิ์เส้นทาง และการประมาณค่าตัวแปรแฝง
- ผู้วิจัยสามารถใช้ข้อค้นพบของ SEM เพื่อระบุความสัมพันธ์พื้นฐานระหว่างความพึงพอใจในงานของพนักงาน ความผูกพันของพนักงาน และความผูกพันต่อองค์กรในองค์กร และให้คำแนะนำสำหรับการปรับปรุงทัศนคติและพฤติกรรมเหล่านี้ตามข้อค้นพบเหล่านี้
โปรดทราบว่านี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของวิธีที่ผู้วิจัยอาจใช้ SEM ในการวิจัยด้านการจัดการบุคลากร และการคำนวณและการตีความที่เฉพาะเจาะจงจะขึ้นอยู่กับข้อมูลและซอฟต์แวร์ทางสถิติที่ใช้ นอกจากนี้ SEM ยังเป็นเพียงหนึ่งในเทคนิคทางสถิติมากมายที่สามารถใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลในการวิจัยด้านการบริหารงานบุคคล และเทคนิคที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับคำถามการวิจัยเฉพาะและข้อมูลที่กำลังวิเคราะห์
ช่องทางติดต่อ
Tel: 0924766638 คุณอาจุ้ย
อีเมล: ichalermlarp@gmail.com
LINE: @impressedu
(หยุดทุกวันอาทิตย์)