คลังเก็บป้ายกำกับ: การสืบค้นข้อมูลงานวิจัย

ความล้มเหลวงานวิจัย_อาจารย์ที่ปรึกษา ปัญหา_อาจารย์ที่ปรึกวิจัย_ปัญหางานวิจัย_ข้อผิดพลาดในการทำวิจัย_กำหนดปัญหางานวิจัย_การเลือกหัวข้องานวิจัย_บริการรับทำวิจัย_รับทำวิจัย_การทำงานวิจัย_งานวิจัย_ข้อมูลงานวิจัย_จ้างทำวิจัย 5 บท_รับทำวิทยานิพนธ์_รับทำวิทยานิพนธ์ ราคา_บริการรับทำวิจัย.com_การทำ Thesis (ธีสิส) _การทำธีสิส_การทำทีสิส_การสืบค้นข้อมูลงานวิจัย_งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง_ตั้งหัวข้อเรื่องงานวิจัย_การตั้งหัวข้อวิจัย_เทคนิคตั้งหัวข้อวิจัย_การเลือกหัวข้องานวิจัย_การเขียนบทความวิจัย_บทความวิจัย

ความล้มเหลวของการทำวิจัย ที่นักวิจัยมือใหม่มักทำพลาด

สำหรับนักวิจัยมือใหม่ สิ่งที่มักทำพลาดและผิดพลาดกันบ่อยๆ ในการทำงานวิจัยทำให้ไม่สามารถดำเนินงานไปได้จนตลอดรอดฝั่ง จนนำไปสู่ความล้มเหลว คือ

https://www.youtube.com/watch?v=xiwPkAuOHVI

1. การขาดการวางแผนการทำงานที่ชัดเจน

เพราะการที่ไม่มีการวางแผนการทำงานที่ชัดเจน จะทำให้ผู้วิจัยไม่สามารถที่จะประมาณการ หรือกำหนดระยะเวลา ในการทำงานวิจัยในแต่ละบทได้ว่า

จะเริ่มทำเมื่อไร? ทำอย่างไรบ้าง? ต้องทำเสร็จภายในระยะเวลาเท่าไหร่? เป็นต้น

ความล้มเหลวงานวิจัย_อาจารย์ที่ปรึกษา ปัญหา_อาจารย์ที่ปรึกวิจัย_ปัญหางานวิจัย_ข้อผิดพลาดในการทำวิจัย_กำหนดปัญหางานวิจัย_การเลือกหัวข้องานวิจัย_บริการรับทำวิจัย_รับทำวิจัย_การทำงานวิจัย_งานวิจัย_ข้อมูลงานวิจัย_จ้างทำวิจัย 5 บท_รับทำวิทยานิพนธ์_รับทำวิทยานิพนธ์ ราคา_บริการรับทำวิจัย.com_การทำ Thesis (ธีสิส) _การทำธีสิส_การทำทีสิส_การสืบค้นข้อมูลงานวิจัย_งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง_ตั้งหัวข้อเรื่องงานวิจัย_การตั้งหัวข้อวิจัย_เทคนิคตั้งหัวข้อวิจัย_การเลือกหัวข้องานวิจัย_การเขียนบทความวิจัย_บทความวิจัย

ซึ่ง การกำหนดระยะเวลาที่จะใช้ในการทำงานแต่ละบทนั้น จะใช้ระยะเวลาในการดำเนินงานที่แตกต่างกัน  อาทิเช่น 

บทที่ 1 จะใช้ระยะเวลาเขียนดำเนินการไม่เกิน 1 สัปดาห์ เป็นการศึกษา ทำการเรียบเรียงความเป็นมาและความสำคัญของปัญหางานวิจัยดังกล่าว

ซึ่ง จะแตกต่างจากการทำงานวิจัยบทที่ 2 ที่จำเป็นจะต้องใช้เวลามากที่สุดในการทำงานวิจัย เพื่อสืบค้นข้อมูลที่เกี่ยวกับแนวคิดทฤษฎี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 

แต่ท่านไม่ได้แบ่งงาน ไม่ได้แบ่งระยะเวลาหรือวางแผน วางไว้อย่างดีเพียงพอก็จะทำให้ท่านไม่สามารถกำหนดระยะเวลาที่ต้องใช้ในการทำการวิจัยเพื่อให้เป็นไปตามกำหนดการได้

2. การเลือกอาจารย์ที่ปรึกษาไม่เหมาะสมกับงานวิจัย

ในการเลือก อาจารย์ที่ปรึกษาวิจัยเป็นประเด็นปัญหาที่ทำให้นักวิจัยมือใหม่ส่วนใหญ่นั้น ไม่สามารถที่จะดำเนินการไปสำเร็จลุล่วงได้

ความล้มเหลวงานวิจัย_อาจารย์ที่ปรึกษา ปัญหา_อาจารย์ที่ปรึกวิจัย_ปัญหางานวิจัย_ข้อผิดพลาดในการทำวิจัย_กำหนดปัญหางานวิจัย_การเลือกหัวข้องานวิจัย_บริการรับทำวิจัย_รับทำวิจัย_การทำงานวิจัย_งานวิจัย_ข้อมูลงานวิจัย_จ้างทำวิจัย 5 บท_รับทำวิทยานิพนธ์_รับทำวิทยานิพนธ์ ราคา_บริการรับทำวิจัย.com_การทำ Thesis (ธีสิส) _การทำธีสิส_การทำทีสิส_การสืบค้นข้อมูลงานวิจัย_งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง_ตั้งหัวข้อเรื่องงานวิจัย_การตั้งหัวข้อวิจัย_เทคนิคตั้งหัวข้อวิจัย_การเลือกหัวข้องานวิจัย_การเขียนบทความวิจัย_บทความวิจัย

เนื่องจาก อาจารย์ที่ปรึกษาแต่ละท่านนั้น อาจจะติดภาระหน้าที่ในการให้คำปรึกษาวิจัยกับผู้วิจัยท่านอื่นๆ จึงส่งผลให้ไม่มีเวลาเพียงพอที่จะตรวจงานของท่าน 

อีกปัญหาหนึ่ง ซึ่งเป็นประเด็นปัญหาที่ผู้วิจัยมือใหม่มักประสบพบเจอกันมาก คือ อาจารย์ที่ปรึกษาวิจัยที่ท่านเลือกนั้น ขาดความรู้ ความเข้าใจ หรือไม่มีความถนัดในหัวข้อเรื่องวิจัยที่ท่านกำลังศึกษามากเพียงพอ

จึงทำให้ต้องเปลี่ยนหัวข้อเรื่องวิจัยตามความถนัดของอาจารย์ที่ปรึกษาวิจัย ทำให้ผู้วิจัยต้องคล้อยตามท่านในช่วงแรก แต่ถ้าว่าเมื่อไม่สามารถหาแหล่งที่จะสืบค้นข้อมูลได้ หรือว่ามีความเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้น อาจจะทำให้การติดต่อประสานงานระหว่างอาจารย์ที่ปรึกษาวิจัยกับท่านไม่สามารถดำเนินงานไปได้ด้วยดีในที่สุด

3. การเลือกหัวข้อในการทำงานวิจัยไม่เหมาะสมกับตัวผู้วิจัย

ข้อนี้เป็นสิ่งที่ทำให้นักวิจัยมือใหม่ส่วนใหญ่มักจะ ตายน้ำตื้น” 

เนื่องจาก เมือเสนอหัวข้อเรื่องวิจัยต่ออาจารย์ที่ปรึกษาไปแล้ว ทางอาจารย์ที่ปรึกษาวิจัยได้ทำการปรับหัวข้อเรื่องวิจัยมาให้ใหม่ ส่งผลให้ท่านต้องปรับแก้ตาม เพื่อที่จะทำให้งานวิจัยเสร็จเร็วที่สุด

ความล้มเหลวงานวิจัย_อาจารย์ที่ปรึกษา ปัญหา_อาจารย์ที่ปรึกวิจัย_ปัญหางานวิจัย_ข้อผิดพลาดในการทำวิจัย_กำหนดปัญหางานวิจัย_การเลือกหัวข้องานวิจัย_บริการรับทำวิจัย_รับทำวิจัย_การทำงานวิจัย_งานวิจัย_ข้อมูลงานวิจัย_จ้างทำวิจัย 5 บท_รับทำวิทยานิพนธ์_รับทำวิทยานิพนธ์ ราคา_บริการรับทำวิจัย.com_การทำ Thesis (ธีสิส) _การทำธีสิส_การทำทีสิส_การสืบค้นข้อมูลงานวิจัย_งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง_ตั้งหัวข้อเรื่องงานวิจัย_การตั้งหัวข้อวิจัย_เทคนิคตั้งหัวข้อวิจัย_การเลือกหัวข้องานวิจัย_การเขียนบทความวิจัย_บทความวิจัย

แต่ถ้าว่า การที่ผู้วิจัยนั้นเลือกทำหัวข้อเรื่องวิจัยที่ตนเองไม่มีความถนัดนั้น มีข้อเสียคือ ท่านขาดความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาข้อมูลงานวิจัยนั้นๆ มากพอ หรือการที่จะสืบค้นแหล่งข้อมูลเนื้อหาที่เกี่ยวกับหัวข้อเรื่องวิจัยที่ท่านทำได้อย่างเพียงพอ หรืออาจจะต้องใช้เวลาในการสืบค้นข้อมูลเกินกว่าระยะเวลาที่กำหนด

อีกทั้งการที่ท่านเลือกหัวข้อที่ตนเองขาดความถนัดนั้น จะทำให้ขาดความมั่นใจในตอนที่ทำการนำเสนองานต่อคณะกรรมการ เมื่อคณะกรรมการตั้งคำถามที่มีความเชื่อมโยงหรือเกี่ยวข้องกับงานวิจัยที่ท่านทำ

เพราะท่านขาดความรู้เพียงพอในหัวข้อเรื่องที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัยนั้นๆ ส่งผลให้ไม่สามารถตอบคำถามที่ดีได้อย่างเพียงพอหรือว่าน่าเชื่อถือ ทำให้การนำเสนองานวิจัยส่วนใหญ่ที่ทำการสอบใน 3 บทไม่ผ่าน

หรือจำเป็นต้องมาเปลี่ยนหัวข้อเรื่องวิจัยภายหลัง ทำให้ต้องเสียเวลาที่จะต้องเริ่มทำงานวิจัยในหัวข้องเรื่องใหม่ หรือในที่สุดอาจจะท้อใจในการทำงานวิจัยให้สำเร็จก็เป็นได้

4. ไม่สามารถที่จะกำหนดกลุ่มประชากรตัวอย่างได้อย่างชัดเจน

ความล้มเหลวงานวิจัย_อาจารย์ที่ปรึกษา ปัญหา_อาจารย์ที่ปรึกวิจัย_ปัญหางานวิจัย_ข้อผิดพลาดในการทำวิจัย_กำหนดปัญหางานวิจัย_การเลือกหัวข้องานวิจัย_บริการรับทำวิจัย_รับทำวิจัย_การทำงานวิจัย_งานวิจัย_ข้อมูลงานวิจัย_จ้างทำวิจัย 5 บท_รับทำวิทยานิพนธ์_รับทำวิทยานิพนธ์ ราคา_บริการรับทำวิจัย.com_การทำ Thesis (ธีสิส) _การทำธีสิส_การทำทีสิส_การสืบค้นข้อมูลงานวิจัย_งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง_ตั้งหัวข้อเรื่องงานวิจัย_การตั้งหัวข้อวิจัย_เทคนิคตั้งหัวข้อวิจัย_การเลือกหัวข้องานวิจัย_การเขียนบทความวิจัย_บทความวิจัย

หากทำการกำหนดกลุ่มประชากรตัวอย่างสำหรับงานวิจัยได้อย่างไม่ชัดเจน จะส่งผลให้คำตอบที่จะได้รับจากการทำงานในหัวข้อเรื่องวิจัยนั้น เกิดการคลาดเคลื่อน และไม่มีความน่าเชื่อถือตามหลักของงานวิจัยเชิงวิชาการได้

ท่านจะต้องทำการระบุได้ว่า กลุ่มประชากรตัวอย่างในงานวิจัยคือใคร มีคุณสมบัติอย่างไร ต้องใช้จำนวนเท่าไหร่ และจะใช้สูตรคำนวณอะไรในการวิเคราะห์ข้อมูล ว่าจะเป็นงานวิจัยเชิงปริมาณ หรือว่างานวิจัยเชิงคุณภาพ เป็นต้น

5. งานวิจัยหรือทฤษฎีที่เกี่ยวข้องในการศึกษาเรื่องวิจัยนั้นเก่าเกินไป

ในปัจจุบันการสืบค้นข้อมูลงานวิจัย แนวคิดหรือทฤษฎีที่เกี่ยวข้องที่ใช้ในการสนับสนุนอ้างอิงงานวิจัย ควรเป็นงานวิจัยที่มีการศึกษาค้นคว้าล่าสุดไม่เกิน 5 – 10 ปี

ความล้มเหลวงานวิจัย_อาจารย์ที่ปรึกษา ปัญหา_อาจารย์ที่ปรึกวิจัย_ปัญหางานวิจัย_ข้อผิดพลาดในการทำวิจัย_กำหนดปัญหางานวิจัย_การเลือกหัวข้องานวิจัย_บริการรับทำวิจัย_รับทำวิจัย_การทำงานวิจัย_งานวิจัย_ข้อมูลงานวิจัย_จ้างทำวิจัย 5 บท_รับทำวิทยานิพนธ์_รับทำวิทยานิพนธ์ ราคา_บริการรับทำวิจัย.com_การทำ Thesis (ธีสิส) _การทำธีสิส_การทำทีสิส_การสืบค้นข้อมูลงานวิจัย_งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง_ตั้งหัวข้อเรื่องงานวิจัย_การตั้งหัวข้อวิจัย_เทคนิคตั้งหัวข้อวิจัย_การเลือกหัวข้องานวิจัย_การเขียนบทความวิจัย_บทความวิจัย

เพราะกระแสสังคม และการพัฒนาด้านเทคโนโลยีที่ผลันเปลี่ยนได้เร็วขึ้นทำให้ง่ายต่อการสืบค้นข้อมูลงานวิจัย แต่ถ้าหากทำการตั้งหัวข้อวิจัยโดยที่ไม่ทำการศึกษางานวิจัย แนวคิดหรือทฤษฎีที่เกี่ยวข้องก่อน อาจจะทำให้เกิดปัญหาคือ ไม่สามารถสืบค้นงานวิจัยที่จะนำมาอ้างอิงข้อมูลที่เป็นปัจจุบันได้ 

ฉะนั้น ควรทำการศึกษางานวิจัย แนวคิดหรือทฤษฎีที่เกี่ยวข้องที่มีเนื้อหาข้อมูลที่ไม่เกิน 5 – 10 ปี ให้สอดคล้องกับหัวข้อเรื่องวิจัย เพื่อใช้ในการสนับสนุนเนื้อหาข้อมูลงานวิจัยให้มีความเป็นปัจจุบัน

และน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้นสำหรับ “ความล้มเหลว 5 ประการที่นักวิจัยมือใหม่มักทำพลาด” ที่กล่าวไปข้างต้นนี้ เป็นสิ่งที่นักวิจัยมือใหม่ ที่ยังขาดประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญในการทำงานวิจัย ที่มักจะทำให้เกิดข้อผิดพลาดกันบ่อยๆ

ช่องทางติดต่อ
Tel: 0924766638 คุณอาจุ้ย
อีเมล: ichalermlarp@gmail.com
LINE: @impressedu
(หยุดทุกวันอาทิตย์)

อาจารย์ที่ปรึกษา ปัญหา_อาจารย์ที่ปรึกวิจัย_ปัญหางานวิจัย_ข้อผิดพลาดในการทำวิจัย_กำหนดปัญหางานวิจัย_การเลือกหัวข้องานวิจัย_บริการรับทำวิจัย_รับทำวิจัย_การทำงานวิจัย_งานวิจัย_ข้อมูลงานวิจัย_จ้างทำวิจัย 5 บท_รับทำวิทยานิพนธ์_รับทำวิทยานิพนธ์ ราคา_บริการรับทำวิจัย.com_การทำ Thesis (ธีสิส) _การทำธีสิส_การทำทีสิส_การสืบค้นข้อมูลงานวิจัย_งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง_ตั้งหัวข้อเรื่องงานวิจัย_การตั้งหัวข้อวิจัย_เทคนิคตั้งหัวข้อวิจัย_การเลือกหัวข้องานวิจัย_การเขียนบทความวิจัย_บทความวิจัย

สอนเขียนบทความวิจัย เขียนยังไงให้มีความน่าสนใจ

การเขียนบทความวิจัยเป็นสิ่งหนึ่งที่ผู้วิจัยที่ทำเล่มงานวิจัยเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว จำเป็นต้องสรุปเนื้อหาทำเป็นบทความวิจัยส่งไปที่วารสาร เพื่อตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานทางวิชาการของตนเอง 

แต่ปัญหาสำคัญอยู่ที่ว่า… จะทำอย่างไรให้เนื้อหาบทความวิจัยที่เขียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้มีในการนำเสนอที่น่าสนใจ 

สำหรับบทความนี้จะมาสอนวิธีการเขียนบทความวิจัยให้มีความน่าสนใจยิ่งขึ้น โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้ 

1. ปรับหัวข้อบทความให้น่าสนใจ

การปรับหัวข้อบทความที่จะส่งตีพิมพ์ให้กับวารสารให้น่าสนใจ ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่เป็นเคล็ดลับที่ผู้วิจัยมือใหม่ส่วนใหญ่นั้นไม่รู้ว่า บทความที่จะส่งตีพิมพ์นั้นสามารถที่จะปรับหัวข้อเรื่องให้แตกต่างไปจากหัวข้อเล่มวิจัยได้ 

อาจารย์ที่ปรึกษา ปัญหา_อาจารย์ที่ปรึกวิจัย_ปัญหางานวิจัย_ข้อผิดพลาดในการทำวิจัย_กำหนดปัญหางานวิจัย_การเลือกหัวข้องานวิจัย_บริการรับทำวิจัย_รับทำวิจัย_การทำงานวิจัย_งานวิจัย_ข้อมูลงานวิจัย_จ้างทำวิจัย 5 บท_รับทำวิทยานิพนธ์_รับทำวิทยานิพนธ์ ราคา_บริการรับทำวิจัย.com_การทำ Thesis (ธีสิส) _การทำธีสิส_การทำทีสิส_การสืบค้นข้อมูลงานวิจัย_งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง_ตั้งหัวข้อเรื่องงานวิจัย_การตั้งหัวข้อวิจัย_เทคนิคตั้งหัวข้อวิจัย_การเลือกหัวข้องานวิจัย_การเขียนบทความวิจัย_บทความวิจัย

โดยเฉพาะการปรับหัวข้อบทความให้มีความน่าสนใจเหมือนเป็นชื่อบทความที่เผยแพร่ทางออนไลน์ หรือว่าเผยแพร่ทางวารสารทั่วไป ไม่จำเป็นที่จะต้องเหมือนกับตัวเล่มวิจัยฉบับสมบูรณ์

ดังนั้นการที่จะปรับหัวข้อบทความให้น่าสนใจอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับว่าท่านกำหนดวัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนั้นว่าเป็นอย่างไรด้วย

การจะปรับหัวข้อบทความวิจัยให้น่าสนใจ จะต้องคำนึงถึงวัตถุประสงค์ของการวิจัย เพราะจำเป็นที่จะต้องปรับให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการวิจัย แต่ทว่าอาจจะมีอาจารย์ที่ปรึกษาวิจัยบางท่านที่แนะนำให้ปรับหัวข้อบทความที่แตกต่างไปจากวัตถุประสงค์การวิจัยก็ได้ แต่จะต้องเป็นไปตามเงื่อนไข คือ จะต้องไม่แตกต่างจากเนื้อหาผลสรุปของการวิจัยที่นำเสนอ 

อาจารย์ที่ปรึกษา ปัญหา_อาจารย์ที่ปรึกวิจัย_ปัญหางานวิจัย_ข้อผิดพลาดในการทำวิจัย_กำหนดปัญหางานวิจัย_การเลือกหัวข้องานวิจัย_บริการรับทำวิจัย_รับทำวิจัย_การทำงานวิจัย_งานวิจัย_ข้อมูลงานวิจัย_จ้างทำวิจัย 5 บท_รับทำวิทยานิพนธ์_รับทำวิทยานิพนธ์ ราคา_บริการรับทำวิจัย.com_การทำ Thesis (ธีสิส) _การทำธีสิส_การทำทีสิส_การสืบค้นข้อมูลงานวิจัย_งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง_ตั้งหัวข้อเรื่องงานวิจัย_การตั้งหัวข้อวิจัย_เทคนิคตั้งหัวข้อวิจัย_การเลือกหัวข้องานวิจัย_การเขียนบทความวิจัย_บทความวิจัย

ดังนั้นการที่จะปรับแต่งหัวข้อบทความให้น่าสนใจ จะต้องคำนึงถึงเนื้อหาผลการวิจัยหรือผลลัพธ์ของการวิจัยที่ค้นคว้าได้เป็นหลัก

2.เขียนสรุปเฉพาะประเด็นสำคัญ

การเขียนบทความวิจัยส่วนใหญ่แล้วจะมีรูปแบบที่จำกัดจำนวนหน้าที่จำเป็นจะต้องเขียนรูปแบบตามนั้น ดังนั้นการเขียนนำเสนอเนื้อหาบทความวิจัย จำเป็นจะต้องเขียนที่สอดคล้องกับรูปแบบของวารสารหรือรูปแบบของบทความที่กำหนดไว้

ดังนั้นการที่จะต้องเขียนให้สอดคล้องกับบทความที่กำหนดไว้อย่างไรนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องเขียนให้นำเสนอแต่เพียงประเด็นสำคัญที่ตรงกับวัตถุประสงค์ของการศึกษา 

การเขียนบทความวิจัย จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องสรุปเนื้อหาผลลัพธ์ให้กระชับและได้ใจความ โดยเฉพาะการสรุปเหลือแต่เพียงประเด็นสำคัญที่จะส่งผลถึงการอ่านและทำความเข้าใจเนื้อหาบทความที่สรุปย่อมาจากเล่มงานวิจัย

อาจารย์ที่ปรึกษา ปัญหา_อาจารย์ที่ปรึกวิจัย_ปัญหางานวิจัย_ข้อผิดพลาดในการทำวิจัย_กำหนดปัญหางานวิจัย_การเลือกหัวข้องานวิจัย_บริการรับทำวิจัย_รับทำวิจัย_การทำงานวิจัย_งานวิจัย_ข้อมูลงานวิจัย_จ้างทำวิจัย 5 บท_รับทำวิทยานิพนธ์_รับทำวิทยานิพนธ์ ราคา_บริการรับทำวิจัย.com_การทำ Thesis (ธีสิส) _การทำธีสิส_การทำทีสิส_การสืบค้นข้อมูลงานวิจัย_งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง_ตั้งหัวข้อเรื่องงานวิจัย_การตั้งหัวข้อวิจัย_เทคนิคตั้งหัวข้อวิจัย_การเลือกหัวข้องานวิจัย_การเขียนบทความวิจัย_บทความวิจัย

การสรุปเนื้อหาให้กระชับไม่เป็นจำที่จะต้องเป็นแค่เพียงเนื้อหา Text ข้อความเท่านั้น ท่านสามารถที่จะสรุปเป็นแผนภาพ หรือสรุปเป็นตารางข้อมูล เพื่อนำเสนอให้เข้าใจได้ง่ายมากขึ้น 

ดังนั้นการเขียนบทความวิจัยจึงเป็นเป็นที่จะต้องอาศัยการเรียบเรียง และขัดเกลา เพื่อให้เนื้อหาออกมาได้ตรงประเด็น และเข้าใจได้ง่ายมากที่สุด

3. นำเสนอด้วยแผนภาพหรือตารางประกอบ

การนำเสนอบทความวิจัยไม่จำเป็นที่จะต้องนำเสนอแต่เพียงแค่เนื้อหาที่เป็น Text ข้อความล้วนเท่านั้น แต่ท่านสามารถที่จะนำเสนอในรูปแบบของแผนภาพ หรือแผนผัง 

การออกแบบแผนภาพดังกล่าวนี้ อาจจะกำหนดเป็นอินโฟกราฟิกที่มีการแทรกเนื้อหาสรุปใจความหลักผลลัพธ์ของการวิจัยได้ 

อาจารย์ที่ปรึกษา ปัญหา_อาจารย์ที่ปรึกวิจัย_ปัญหางานวิจัย_ข้อผิดพลาดในการทำวิจัย_กำหนดปัญหางานวิจัย_การเลือกหัวข้องานวิจัย_บริการรับทำวิจัย_รับทำวิจัย_การทำงานวิจัย_งานวิจัย_ข้อมูลงานวิจัย_จ้างทำวิจัย 5 บท_รับทำวิทยานิพนธ์_รับทำวิทยานิพนธ์ ราคา_บริการรับทำวิจัย.com_การทำ Thesis (ธีสิส) _การทำธีสิส_การทำทีสิส_การสืบค้นข้อมูลงานวิจัย_งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง_ตั้งหัวข้อเรื่องงานวิจัย_การตั้งหัวข้อวิจัย_เทคนิคตั้งหัวข้อวิจัย_การเลือกหัวข้องานวิจัย_การเขียนบทความวิจัย_บทความวิจัย

ดังนั้นการที่จะนำเสนออย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับรูปแบบการออกแบบแผนภาพของท่านด้วย 

การที่จะออกแบบแผนภาพหรือรูปภาพที่ง่ายต่อการทำความเข้าใจนั้น ท่านสามารถที่จะดูตัวอย่างแนวทางของบทความที่ได้รับความนิยม หรือบทความที่ได้รับการเผยแพร่ และได้รับรางวัลต่างๆที่มีการนำเสนอแล้วมีเนื้อหาที่นำเสนอโดดเด่น น่าสนใจ ท่านสามารถยึดตัวอย่างบทความนั้น เพื่อนำมาเป็นแนวทางในการเขียนบทความวิจัยของท่านได้

ทั้งหมดที่กล่าวไปข้างต้นนี้เป็นเทคนิคของการเขียนบทความวิจัยให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น หากท่านสามารถนำเนื้อหาสาระของบทความนี้ ไปประยุกต์ใช้ในการเขียนบทความวิจัยของท่านได้ ก็จะทำให้บทความวิจัยของท่านนั้นมีความน่าสนใจมากขึ้น

ช่องทางติดต่อ
Tel: 0924766638 คุณอาจุ้ย
อีเมล: ichalermlarp@gmail.com
LINE: @impressedu
(หยุดทุกวันอาทิตย์)

อาจารย์ที่ปรึกษา ปัญหา_อาจารย์ที่ปรึกวิจัย_ปัญหางานวิจัย_ข้อผิดพลาดในการทำวิจัย_กำหนดปัญหางานวิจัย_การเลือกหัวข้องานวิจัย_บริการรับทำวิจัย_รับทำวิจัย_การทำงานวิจัย_งานวิจัย_ข้อมูลงานวิจัย_จ้างทำวิจัย 5 บท_รับทำวิทยานิพนธ์_รับทำวิทยานิพนธ์ ราคา_บริการรับทำวิจัย.com_การทำ Thesis (ธีสิส) _การทำธีสิส_การทำทีสิส_การสืบค้นข้อมูลงานวิจัย_งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง_ตั้งหัวข้อเรื่องงานวิจัย_การตั้งหัวข้อวิจัย_เทคนิคตั้งหัวข้อวิจัย_การเลือกหัวข้องานวิจัย

เทคนิค 3 ข้อ ในการตั้งหัวข้อวิจัยให้ถูกใจอาจารย์ที่ปรึกษา

ในการตั้งหัวข้อวิจัยก็ต้องมีเทคนิคเพื่อให้หัวข้อวิจัยดึงดูดความสนใจและถูกใจอาจารย์ที่ปรึกษาเช่นกัน 

ในบทความนี้จะแนะนำ 3 เทคนิคในการตั้งหัวข้อวิจัยที่จะช่วยให้หัวข้องานวิจัยให้น่าดึงดูด และถูกใจอาจารย์ที่ปรึกษา ซึ่งเหมาะสำหรับผู้วิจัยมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นทำงานวิจัย

1. ถามอาจารย์ที่ปรึกษาว่าควรใช้การวิจัยรูปแบบใด

การถามกับอาจารย์ที่ปรึกษาว่าควรใช้การวิจัยรูปแบบใด ก็ถือว่าเป็นหนึ่งแนวทางการเปิดหัวข้อการพูดคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อที่จะฟังความคิดเห็นของอาจารย์ที่ปรึกษาเพื่อที่จะนำรูปแบบวิธีการวิจัยดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ในการตั้งข้อการวิจัยของท่าน 

อาจารย์ที่ปรึกษา ปัญหา_อาจารย์ที่ปรึกวิจัย_ปัญหางานวิจัย_ข้อผิดพลาดในการทำวิจัย_กำหนดปัญหางานวิจัย_การเลือกหัวข้องานวิจัย_บริการรับทำวิจัย_รับทำวิจัย_การทำงานวิจัย_งานวิจัย_ข้อมูลงานวิจัย_จ้างทำวิจัย 5 บท_รับทำวิทยานิพนธ์_รับทำวิทยานิพนธ์ ราคา_บริการรับทำวิจัย.com_การทำ Thesis (ธีสิส) _การทำธีสิส_การทำทีสิส_การสืบค้นข้อมูลงานวิจัย_งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง_ตั้งหัวข้อเรื่องงานวิจัย_การตั้งหัวข้อวิจัย_เทคนิคตั้งหัวข้อวิจัย_การเลือกหัวข้องานวิจัย

เนื่องจากว่าสิ่งสำคัญนอกเหนือไปจากหัวข้อของการวิจัยแล้ว การทราบถึงประเภทหรือรูปแบบงานวิจัยก็ถือว่าเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญเช่นกัน โดยเฉพาะความถนัดในงานวิจัยเชิงปริมาณหรืองานวิจัยเชิงคุณภาพ ที่ผู้วิจัยแต่ละท่านมีความถนัดไม่เหมือนกัน การเปิดหัวข้อสนทนาโดยให้อาจารย์ที่ปรึกษาแสดงความคิดเห็นหรือคำแนะนำรูปแบบของการวิจัยนั้นถือว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่จะช่วยกำหนดหัวข้อวิจัยทางอ้อมว่าควรเป็นไปในรูปแบบใด

2. ปัญหาการวิจัยที่ควรจะพัฒนาต่อยอดจากรุ่นพี่มีบ้างหรือไม่

การพูดคุยเพื่อให้อาจารย์ที่ปรึกษาแนะนำหัวข้อวิจัยให้ท่านนั้นสามารถพูดคุยไปในเชิงว่ารุ่นพี่ที่เพิ่งสอบเล่มวิจัยผ่านไปนั้นเขาสอบผ่านด้วยหัวข้อวิจัยรูปแบบใด ใช้การวิจัยประเภทใด เพื่อที่จะพัฒนาต่อยอดมาจากเล่มรุ่นพี่ดังกล่าวได้ ท่านสามารถอาศัยข้อมูลดังกล่าวมาเป็นแนวทางในการดัดแปลงหัวข้อวิจัยจากรุ่นพี่ เพื่อนำมาใช้เป็นการศึกษาวิจัยของตนเองได้ 

อาจารย์ที่ปรึกษา ปัญหา_อาจารย์ที่ปรึกวิจัย_ปัญหางานวิจัย_ข้อผิดพลาดในการทำวิจัย_กำหนดปัญหางานวิจัย_การเลือกหัวข้องานวิจัย_บริการรับทำวิจัย_รับทำวิจัย_การทำงานวิจัย_งานวิจัย_ข้อมูลงานวิจัย_จ้างทำวิจัย 5 บท_รับทำวิทยานิพนธ์_รับทำวิทยานิพนธ์ ราคา_บริการรับทำวิจัย.com_การทำ Thesis (ธีสิส) _การทำธีสิส_การทำทีสิส_การสืบค้นข้อมูลงานวิจัย_งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง_ตั้งหัวข้อเรื่องงานวิจัย_การตั้งหัวข้อวิจัย_เทคนิคตั้งหัวข้อวิจัย_การเลือกหัวข้องานวิจัย

ในการที่จะดัดแปลงหัวข้อวิจัยของรุ่นพี่นั้นท่านต้องทราบก่อนว่าเขาศึกษาเกี่ยวกับประเด็นใด อย่างไร ตัวแปรใด หรือมีปัญหาอย่างไร เพื่อที่จะนำมาพัฒนาต่อยอดในการประยุกต์ใช้เป็นหัวข้อการวิจัยของท่าน โดยข้อมูลดังกล่าวนี้ควรมาจากอาจารย์ที่ปรึกษา เพราะว่าหัวข้อที่รุ่นพี่ทำนั้นเป็นสิ่งที่อาจารย์ที่ปรึกษารับรู้ และเป็นผู้ที่ให้คำปรึกษาโดยตรงในงานวิจัยของรุ่นพี่ดังกล่าว

 3. ปัจจุบันควรจะนำประเด็นใดมาพัฒนาแก้ไขดี

การถามกับอาจารย์ที่ปรึกษาว่าควรจะนำประเด็นใดมาพัฒนาแก้ไขดี เป็นเหมือนการสอบถามความคิดเห็นของอาจารย์ที่ปรึกษาว่า ความคิดเห็นในปัจจุบันของอาจารย์ที่ปรึกษานั้นมีความสนใจในประเด็นใดอยู่ 

อาจารย์ที่ปรึกษา ปัญหา_อาจารย์ที่ปรึกวิจัย_ปัญหางานวิจัย_ข้อผิดพลาดในการทำวิจัย_กำหนดปัญหางานวิจัย_การเลือกหัวข้องานวิจัย_บริการรับทำวิจัย_รับทำวิจัย_การทำงานวิจัย_งานวิจัย_ข้อมูลงานวิจัย_จ้างทำวิจัย 5 บท_รับทำวิทยานิพนธ์_รับทำวิทยานิพนธ์ ราคา_บริการรับทำวิจัย.com_การทำ Thesis (ธีสิส) _การทำธีสิส_การทำทีสิส_การสืบค้นข้อมูลงานวิจัย_งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง_ตั้งหัวข้อเรื่องงานวิจัย_การตั้งหัวข้อวิจัย_เทคนิคตั้งหัวข้อวิจัย_การเลือกหัวข้องานวิจัย

เนื่องจากอาจารย์ที่ปรึกษาแต่ละท่านนั้นต้องสร้างผลงานวิชาการปีละหลายชิ้นงาน ดังนั้นหากทราบข้อมูลในประเด็นที่อาจารย์ที่ปรึกษากำลังสนใจติดตามศึกษาอยู่ ท่านก็สามารถนำประเด็นดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ให้เป็นประโยชน์ในการตั้งหัวข้องานวิจัยของท่านให้ถูกใจอาจารย์ที่ปรึกษาได้เช่นกัน

การตั้งหัวข้อวิจัยนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นจะต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างฝ่ายผู้วิจัยกับฝ่ายอาจารย์ที่ปรึกษา โดยเฉพาะฝ่ายอาจารย์ที่ปรึกษานั้นมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะการที่จะพัฒนาหัวข้อวิจัยใดนั้นอยู่ในดุลยพินิจของอาจารย์ที่ปรึกษาที่จะให้คำแนะนำได้อย่างชัดเจน มีประสบการณ์ และมีความสอดคล้องกับความสามารถหรือความถนัดของผู้วิจัย 

หากท่านสามารถนำเทคนิคดังกล่าวนี้ไปประยุกต์ใช้ในการตั้งหัวข้อวิจัยให้ถูกใจอาจารย์ที่ปรึกษาได้ ก็จะทำให้ท่านสามารถทำงานวิจัยนั้นให้สำเร็จลุล่วงไปได้โดยง่าย

ช่องทางติดต่อ
Tel: 0924766638 คุณอาจุ้ย
อีเมล: ichalermlarp@gmail.com
LINE: @impressedu
(หยุดทุกวันอาทิตย์)

อาจารย์ที่ปรึกษา ปัญหา_อาจารย์ที่ปรึกวิจัย_ปัญหางานวิจัย_ข้อผิดพลาดในการทำวิจัย_กำหนดปัญหางานวิจัย_การเลือกหัวข้องานวิจัย_บริการรับทำวิจัย_รับทำวิจัย_การทำงานวิจัย_งานวิจัย_ข้อมูลงานวิจัย_จ้างทำวิจัย 5 บท_รับทำวิทยานิพนธ์_รับทำวิทยานิพนธ์ ราคา_บริการรับทำวิจัย.com_การทำ Thesis (ธีสิส) _การทำธีสิส_การทำทีสิส_การสืบค้นข้อมูลงานวิจัย_งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

5 เทคนิคในการสืบค้นข้อมูลงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

นักวิจัยหลายท่านมีปัญหาในการสืบค้นข้อมูลงานวิจัยเพื่อที่จะค้นหางานวิจัยที่เกี่ยวข้องมาประยุกต์ใช้กับการศึกษาวิจัยของตนเอง

ซึ่งในบทความนี้ มีเทคนิคในการสืบค้นงานวิจัยที่เกี่ยวข้องว่าต้องทำแบบไหน อย่างไร เพื่อที่จะสำเร็จได้ง่ายและสามารถนำงานวิจัยที่เกี่ยวข้องดังกล่าวนั้นมาประยุกต์ใช้กับงานวิจัยของท่านได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

1. ต้องสืบค้นจากตัวแปรที่ทำการศึกษาวิจัย

การสืบค้นจากตัวแปรที่ทำการศึกษาวิจัยจะทำให้ท่านทราบว่าตัวแปรดังกล่าวนี้มีอยู่ในงานวิจัยที่เกี่ยวข้องชิ้นใดบ้าง เนื่องจากการกำหนดตัวแปรที่จะใช้ในการวิจัยนั้นมีอยู่ในกรอบแนวคิดการวิจัยอย่างชัดเจนอยู่แล้ว 

อาจารย์ที่ปรึกษา ปัญหา_อาจารย์ที่ปรึกวิจัย_ปัญหางานวิจัย_ข้อผิดพลาดในการทำวิจัย_กำหนดปัญหางานวิจัย_การเลือกหัวข้องานวิจัย_บริการรับทำวิจัย_รับทำวิจัย_การทำงานวิจัย_งานวิจัย_ข้อมูลงานวิจัย_จ้างทำวิจัย 5 บท_รับทำวิทยานิพนธ์_รับทำวิทยานิพนธ์ ราคา_บริการรับทำวิจัย.com_การทำ Thesis (ธีสิส) _การทำธีสิส_การทำทีสิส_การสืบค้นข้อมูลงานวิจัย_งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

ท่านเพียงแต่นำข้อมูลตัวแปรที่กำหนดไว้ในกรอบแนวคิดของการวิจัยของท่านมาสืบค้นทีละตัวแปรเพื่อที่จะให้ได้งานวิจัยแต่ละชิ้นงานที่สอดคล้องกันจนครบทุกตัวแปร เพื่อที่จะหางานวิจัยที่เกี่ยวข้องมาสนับสนุนการศึกษาวิจัยตัวแปรดังกล่าวได้อย่างเพียงพอ

2. คำต้องกระชับและชัดเจน

หลายครั้งที่มีการกำหนดชื่อตัวแปรที่ค่อนข้างยาวจึงทำให้เป็นปัญหาต่อการสืบค้นข้อมูลงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการจะสืบค้นงานวิจัยที่เกี่ยวข้องท่านต้องคิดถึงประเด็นหลักหรือ Keyword ของตัวแปรดังกล่าว 

อาจารย์ที่ปรึกษา ปัญหา_อาจารย์ที่ปรึกวิจัย_ปัญหางานวิจัย_ข้อผิดพลาดในการทำวิจัย_กำหนดปัญหางานวิจัย_การเลือกหัวข้องานวิจัย_บริการรับทำวิจัย_รับทำวิจัย_การทำงานวิจัย_งานวิจัย_ข้อมูลงานวิจัย_จ้างทำวิจัย 5 บท_รับทำวิทยานิพนธ์_รับทำวิทยานิพนธ์ ราคา_บริการรับทำวิจัย.com_การทำ Thesis (ธีสิส) _การทำธีสิส_การทำทีสิส_การสืบค้นข้อมูลงานวิจัย_งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

เช่น “ความต้องการต่อการพัฒนา” สามารถสรุปได้สั้นๆ ก็คือ “ความต้องการพัฒนา” ฉะนั้นท่านต้องแยกเป็น 2 ตัวแปร หรือ 2 คำที่มีความสอดคล้องสัมพันธ์กัน เพื่อที่จะนำไปใช้ในการสืบค้นข้อมูลงานวิจัยต่างๆ

ซึ่งผลลัพธ์จะปรากฏตาม Keyword (คำหลัก) ที่ท่านกำหนดในการสืบค้น ท่านต้องตีความให้ชัดเจนว่าตัวแปรที่ชื่อยาวนี้มี Keyword หลักคืออะไร 

อย่างตัวอย่างที่ยกไปข้างต้นคือ “ความต้องการต่อการพัฒนา”
Keyword หลัก คือ “ความต้องการ” 
Keyword รอง คือ “การพัฒนา” 

ท่านต้องแยกเป็น Keyword หลัก และ Keyword รอง เพื่อที่จะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการสืบค้นข้อมูลงานวิจัย เพื่อค้นหางานวิจัยที่เกี่ยวข้องที่มีความสอดคล้องกับตัวแปรที่ท่านต้องการศึกษาได้

3. หาคำพ้องที่มีความหมายคล้ายคลึงกัน

อาจารย์ที่ปรึกษา ปัญหา_อาจารย์ที่ปรึกวิจัย_ปัญหางานวิจัย_ข้อผิดพลาดในการทำวิจัย_กำหนดปัญหางานวิจัย_การเลือกหัวข้องานวิจัย_บริการรับทำวิจัย_รับทำวิจัย_การทำงานวิจัย_งานวิจัย_ข้อมูลงานวิจัย_จ้างทำวิจัย 5 บท_รับทำวิทยานิพนธ์_รับทำวิทยานิพนธ์ ราคา_บริการรับทำวิจัย.com_การทำ Thesis (ธีสิส) _การทำธีสิส_การทำทีสิส_การสืบค้นข้อมูลงานวิจัย_งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

การหาคำที่มีความสอดคล้องหรือความหมายที่ใกล้เคียงกับตัวแปรที่ท่านทำการศึกษาวิจัย ถือว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่อาจจะนำไปสู่ขอบเขตงานวิจัยที่เกี่ยวข้องที่สอดคล้องกับตัวแปรที่ท่านทำการศึกษาได้ 

เช่น การกำหนดการสืบค้นข้อมูลงานวิจัยเกี่ยวกับความต้องการในการพัฒนา ก็จะมี Keyword ที่สอดคล้องหรือใกล้เคียงกันคือ “ความคาดหวังต่อการพัฒนา” “แนวทางการพัฒนา” หรือ “ประสิทธิภาพการบริหารที่ส่งผลต่อการพัฒนา”

Keyword เหล่านี้ถือว่าเป็นสิ่งที่มีความคล้ายคลึงและใกล้เคียงกับตัวแปรที่สอดคล้องกับ “ความต้องการในการพัฒนา” ซึ่งท่านสามารถนำ Keyword ต่างๆ เหล่านี้ไปสืบค้นเพิ่มเติม เพื่อที่จะให้ได้ผลลัพธ์จากงานวิจัยที่เกี่ยวข้องที่ใกล้เคียงกับตัวแปรที่ท่านทำการศึกษาอยู่ได้

4. ค้นหา Keyword ภาษาอังกฤษ

อาจารย์ที่ปรึกษา ปัญหา_อาจารย์ที่ปรึกวิจัย_ปัญหางานวิจัย_ข้อผิดพลาดในการทำวิจัย_กำหนดปัญหางานวิจัย_การเลือกหัวข้องานวิจัย_บริการรับทำวิจัย_รับทำวิจัย_การทำงานวิจัย_งานวิจัย_ข้อมูลงานวิจัย_จ้างทำวิจัย 5 บท_รับทำวิทยานิพนธ์_รับทำวิทยานิพนธ์ ราคา_บริการรับทำวิจัย.com_การทำ Thesis (ธีสิส) _การทำธีสิส_การทำทีสิส_การสืบค้นข้อมูลงานวิจัย_งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

บางครั้งงานวิจัยที่เกี่ยวข้องภายในประเทศไทยก็มีการแปลทับศัพท์ภาษาอังกฤษ ซึ่งจะมีการแปลโดยใช้ภาษาที่แตกต่างกันไป เช่นคำว่า “Social Network (เครือข่ายสังคม)” ในบางครั้งผู้วิจัยหรือว่างานวิจัยบางเล่มนั้นก็จะใช้คำว่า “สื่อสังคมออนไลน์” ซึ่งเป็นคำที่มีความหมายสอดคล้องหรือใกล้เคียงที่จำเป็นต้องมีการค้นคว้า หรือสืบค้นข้อมูลงานวิจัยโดยใช้ Keyword ที่แตกต่างกัน

การที่ท่านจะสืบค้น Keyword ที่ต้องการจากงานวิจัยที่เกี่ยวข้องได้นั้นจำเป็นที่จะต้องคิดถึงการใช้ Keyword ค้นหาเป็นภาษาอังกฤษร่วมด้วยเสมอทุกครั้ง เนื่องจาก Keyword ที่เป็นภาษาอังกฤษนั้นอาจจะให้ผลลัพธ์ที่ตรงประเด็นและชัดเจนกว่าการใช้คำค้นหาที่เป็นคำภาษาไทยเพียงอย่างเดียวก็ได้

5. ค้นหาจากหลากหลายแหล่งข้อมูล

อาจารย์ที่ปรึกษา ปัญหา_อาจารย์ที่ปรึกวิจัย_ปัญหางานวิจัย_ข้อผิดพลาดในการทำวิจัย_กำหนดปัญหางานวิจัย_การเลือกหัวข้องานวิจัย_บริการรับทำวิจัย_รับทำวิจัย_การทำงานวิจัย_งานวิจัย_ข้อมูลงานวิจัย_จ้างทำวิจัย 5 บท_รับทำวิทยานิพนธ์_รับทำวิทยานิพนธ์ ราคา_บริการรับทำวิจัย.com_การทำ Thesis (ธีสิส) _การทำธีสิส_การทำทีสิส_การสืบค้นข้อมูลงานวิจัย_งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

การค้นหาจากหลากหลายแหล่งข้อมูลจะทำให้ท่านได้รับผลลัพธ์จากงานวิจัยที่เกี่ยวข้องที่สอดคล้องกับความต้องการของท่านได้ ไม่ว่าจะเป็นการสืบค้นที่ใกล้เคียงกับตัวแปร การแยกคำ คำหลัก คำรอง การสืบค้นข้อมูลงานวิจัยโดยใช้ภาษาอังกฤษ เพื่อที่จะใช้สืบค้นในฐานข้อมูลแห่งใดแห่งหนึ่ง 

แต่ฐานข้อมูลนั้นมีหลากหลายฐานข้อมูล การที่จะสืบค้นให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนั้นท่านจำเป็นที่จะต้องมีฐานข้อมูลจำนวนมากเพื่อที่จะใช้ในการสืบค้นงานวิจัยที่เกี่ยวข้องให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด

5 เทคนิค ในการสืบค้นข้อมูลงานวิจัยที่เกี่ยวข้องทั้งหมดนี้ เป็นเทคนิคที่ผู้เชี่ยวชาญในการทำงานวิจัยมักจะใช้ในการสืบค้นงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ซึ่งท่านสามารถที่จะนำไปประยุกต์ใช้ในการสืบค้นงานวิจัยที่เกี่ยวข้องของท่านได้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัยของท่านได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

ช่องทางติดต่อ
Tel: 0924766638 คุณอาจุ้ย
อีเมล: ichalermlarp@gmail.com
LINE: @impressedu
(หยุดทุกวันอาทิตย์)