t test dependent หรือ paired sample t-test เป็นสถิติที่ใช้ในการทดสอบความแตกต่างระหว่างค่าสองค่าในกลุ่มตัวอย่างเดียวกัน โดยค่าทั้งสองค่านี้จะต้องวัดจากสิ่งทดลองเดียวกันหรือสิ่งทดลองที่เกี่ยวข้องกัน เช่น คะแนนก่อนและหลังเรียน น้ำหนักก่อนและหลังลดน้ำหนัก ความดันโลหิตก่อนและหลังรับประทานยา เป็นต้น
t test dependent มีข้อกำหนดเบื้องต้นดังนี้
- กลุ่มตัวอย่างต้องมีขนาดน้อยกว่า 30 คน (n < 30)
- ค่าทั้งสองค่าต้องวัดจากสิ่งทดลองเดียวกันหรือสิ่งทดลองที่เกี่ยวข้องกัน
- ค่าทั้งสองค่าต้องเป็นไปตามสมมติฐานการแจกแจงปกติ
ตัวอย่างการใช้งาน
- การศึกษาผลของการฝึกอบรมพนักงาน
บริษัทแห่งหนึ่งต้องการศึกษาผลของการฝึกอบรมพนักงานใหม่ โดยวัดคะแนนก่อนและหลังการฝึกอบรม ผลการทดสอบพบว่าคะแนนหลังการฝึกอบรมสูงกว่าคะแนนก่อนการฝึกอบรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ แสดงว่าการฝึกอบรมมีผลต่อคะแนนของพนักงาน
- การศึกษาประสิทธิภาพของยารักษาโรค
โรงพยาบาลแห่งหนึ่งต้องการศึกษาประสิทธิภาพของยารักษาโรคความดันโลหิตสูง โดยวัดความดันโลหิตของผู้ป่วยก่อนและหลังรับประทานยา ผลการทดสอบพบว่าความดันโลหิตของผู้ป่วยหลังรับประทานยาลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ แสดงว่ายารักษาโรคมีประสิทธิภาพในการลดความดันโลหิต
- การศึกษาความพึงพอใจของผู้บริโภค
บริษัทแห่งหนึ่งต้องการศึกษาความพึงพอใจของผู้บริโภคต่อผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยวัดความพึงพอใจของผู้บริโภคก่อนและหลังใช้ผลิตภัณฑ์ ผลการทดสอบพบว่าความพึงพอใจของผู้บริโภคหลังใช้ผลิตภัณฑ์สูงกว่าความพึงพอใจของผู้บริโภคก่อนใช้ผลิตภัณฑ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ แสดงว่าผลิตภัณฑ์ใหม่เป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภค
- การศึกษาผลของการออกกำลังกาย
นักวิจัยต้องการศึกษาผลของการออกกำลังกายต่อประสิทธิภาพการทำงานของสมอง โดยวัดความสามารถในการจดจำของอาสาสมัครก่อนและหลังการออกกำลังกาย ผลการทดสอบพบว่าความสามารถในการจดจำของอาสาสมัครหลังการออกกำลังกายดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ แสดงว่าการออกกำลังกายมีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของสมอง
- การศึกษาผลของโภชนาการต่อสุขภาพ
นักวิจัยต้องการศึกษาผลของโภชนาการต่อระดับไขมันในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวาน โดยวัดระดับไขมันในเลือดของผู้ป่วยก่อนและหลังรับประทานอาหารตามคำแนะนำของนักโภชนาการ ผลการทดสอบพบว่าระดับไขมันในเลือดของผู้ป่วยหลังรับประทานอาหารตามคำแนะนำของนักโภชนาการลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ แสดงว่าโภชนาการมีผลต่อระดับไขมันในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวาน
- การศึกษาผลของเทคโนโลยีต่อการเรียนรู้
นักวิจัยต้องการศึกษาผลของเทคโนโลยีต่อการเรียนรู้ของนักเรียน โดยวัดผลการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังใช้เทคโนโลยี ผลการทดสอบพบว่าผลการเรียนของนักเรียนหลังใช้เทคโนโลยีดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ แสดงว่าเทคโนโลยีมีผลต่อการเรียนรู้ของนักเรียน
- การศึกษาผลของโฆษณา
บริษัทแห่งหนึ่งต้องการทราบว่าโฆษณาที่ออกอากาศทางโทรทัศน์มีผลต่อความทรงจำของผู้บริโภคหรือไม่ โดยวัดความทรงจำของผู้บริโภคต่อผลิตภัณฑ์ก่อนและหลังดูโฆษณา ผลการทดสอบพบว่าความทรงจำของผู้บริโภคต่อผลิตภัณฑ์หลังดูโฆษณาดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ แสดงว่าโฆษณามีผลต่อความทรงจำของผู้บริโภค
- การศึกษาผลของโปรแกรมรักษาสิ่งแวดล้อม
รัฐบาลท้องถิ่นต้องการทราบประสิทธิภาพของโปรแกรมรักษาสิ่งแวดล้อมในการลดปริมาณขยะ โดยวัดปริมาณขยะที่ทิ้งในแต่ละครัวเรือนก่อนและหลังเข้าร่วมโปรแกรมรักษาสิ่งแวดล้อม ผลการทดสอบพบว่าปริมาณขยะที่ทิ้งในแต่ละครัวเรือนหลังเข้าร่วมโปรแกรมรักษาสิ่งแวดล้อมลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ แสดงว่าโปรแกรมรักษาสิ่งแวดล้อมมีประสิทธิภาพในการลดปริมาณขยะ
- การศึกษาผลของการรักษาโรค
โรงพยาบาลแห่งหนึ่งต้องการทราบประสิทธิภาพของการรักษาโรคมะเร็งต่ออัตราการรอดชีวิต โดยวัดอัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วยมะเร็งก่อนและหลังการรักษา ผลการทดสอบพบว่าอัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วยมะเร็งหลังการรักษาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ แสดงว่าการรักษาโรคมะเร็งมีประสิทธิภาพในการเพิ่มอัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วย
การสรุปผล
t test dependent เป็นสถิติที่ใช้ในการทดสอบความแตกต่างระหว่างค่าสองค่าในกลุ่มตัวอย่างเดียวกัน โดยค่าทั้งสองค่านี้จะต้องวัดจากสิ่งทดลองเดียวกันหรือสิ่งทดลองที่เกี่ยวข้องกัน t test dependent มีข้อกำหนดเบื้องต้นที่สำคัญคือ กลุ่มตัวอย่างต้องมีขนาดน้อยกว่า 30 คน และค่าทั้งสองค่าต้องเป็นไปตามสมมติฐานการแจกแจงปกติ
t test dependent สามารถนำไปใช้เพื่อทดสอบสมมติฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของค่า เช่น สมมติฐานที่ว่าค่าทั้งสองค่ามีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ สมมติฐานที่ว่าค่าทั้งสองค่ามีความแตกต่างกันตามทิศทางที่คาดหวัง สมมติฐานที่ว่าค่าทั้งสองค่ามีความแตกต่างกันตามปริมาณที่คาดหวัง เป็นต้น