IRR ย่อมาจาก Internal Rate of Return หมายถึง อัตราผลตอบแทนภายในของโครงการลงทุน เป็นอัตราคิดลดที่ทำให้มูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) ของโครงการเท่ากับศูนย์ พูดง่าย ๆ คือ อัตราผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับจากการลงทุนในโครงการนั้น ๆ
การคำนวณ IRR
การคำนวณ IRR สามารถทำได้หลายวิธี วิธีที่ง่ายที่สุดคือใช้เครื่องคิดเลขทางการเงินหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โดยใช้สูตรดังนี้
IRR = -(CF0) / (CF1/(1+r) + CF2/(1+r)² + ... + CFn/(1+r)^n)
โดยที่
- CF0 คือ เงินลงทุนเริ่มต้น
- CF1 ถึง CFn คือ กระแสเงินสดรับสุทธิในแต่ละปี
- r คือ อัตราคิดลด
ตัวอย่างการคำนวณ IRR
สมมติว่า โครงการลงทุนหนึ่งมีเงินลงทุนเริ่มต้น 100,000 บาท และคาดว่าจะมีกระแสเงินสดรับสุทธิในปีแรก 20,000 บาท ในปีที่สอง 30,000 บาท และในปีที่สาม 50,000 บาท หากใช้อัตราคิดลด 10% จะได้ค่า IRR เท่ากับ 15.87%
ความสำคัญของ IRR
IRR เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการตัดสินใจลงทุน เนื่องจากช่วยให้นักลงทุนสามารถเปรียบเทียบโครงการลงทุนต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น โดยโครงการที่มี IRR สูงกว่าย่อมมีความคุ้มค่ามากกว่าโครงการที่มี IRR ต่ำกว่า
นอกจากนี้ IRR ยังสามารถใช้ประเมินความเสี่ยงของการลงทุนได้อีกด้วย โดยโครงการที่มี IRR สูงย่อมมีความเสี่ยงสูงกว่าโครงการที่มี IRR ต่ำ
วิธีใช้ IRR ในการตัดสินใจลงทุน
นักลงทุนสามารถพิจารณาใช้ IRR ในการตัดสินใจลงทุนได้ดังนี้
- เปรียบเทียบ IRR ของโครงการลงทุนต่าง ๆ กัน โดยเลือกลงทุนในโครงการที่มี IRR สูงกว่า
- เปรียบเทียบ IRR ของโครงการลงทุนกับอัตราผลตอบแทนที่ต้องการ หาก IRR สูงกว่าอัตราผลตอบแทนที่ต้องการ แสดงว่าโครงการนั้นคุ้มค่าที่จะลงทุน
- เปรียบเทียบ IRR ของโครงการลงทุนกับอัตราความเสี่ยงที่ยอมรับได้ หาก IRR สูงกว่าอัตราความเสี่ยงที่ยอมรับได้ แสดงว่าโครงการนั้นเหมาะสมกับความเสี่ยงที่นักลงทุนสามารถรับได้
ข้อควรระวังในการใช้ IRR
IRR เป็นเครื่องมือวัดความคุ้มค่าในการลงทุนที่มีประโยชน์ แต่มีข้อควรระวังในการใช้ดังนี้
- IRR ไม่สามารถนำมาใช้เปรียบเทียบโครงการลงทุนที่มีระยะเวลาลงทุนต่างกันได้
- IRR ไม่สามารถนำมาใช้เปรียบเทียบโครงการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่างกันได้
- IRR เป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งในการประกอบการตัดสินใจลงทุนเท่านั้น นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ประกอบการตัดสินใจด้วย เช่น แนวโน้มของตลาด ความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ เป็นต้น