การวิจัยเชิงทดลอง เป็นวิธีการวิจัยที่มุ่งหาความสัมพันธ์ของเหตุและผลระหว่างตัวแปร โดยนักวิจัยจะควบคุมตัวแปรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและทำการทดลองเพื่อสังเกตผลลัพธ์ ตัวอย่างการวิจัยเชิงทดลองในหลากหลายสาขาวิชามีดังนี้
1. สาขาวิทยาศาสตร์
- ตัวอย่าง: การศึกษาผลของปุ๋ยชนิดต่างๆ ต่อการเจริญเติบโตของต้นพืช
- วิธีการ: แบ่งต้นพืชออกเป็นกลุ่มต่างๆ ใส่ปุ๋ยชนิดต่างๆ ลงในดินของแต่ละกลุ่ม บันทึกข้อมูลการเจริญเติบโตของต้นพืช เปรียบเทียบผลลัพธ์ระหว่างกลุ่ม
2. สาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ
- ตัวอย่าง: การศึกษาผลของยาชนิดใหม่ต่ออาการปวดหัว
- วิธีการ: คัดเลือกผู้ป่วยที่มีอาการปวดหัว แบ่งผู้ป่วยออกเป็นกลุ่มต่างๆ ให้กลุ่มหนึ่งทานยาชนิดใหม่ อีกกลุ่มทานยาหลอก บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับอาการปวดหัว เปรียบเทียบผลลัพธ์ระหว่างกลุ่ม
3. สาขาวิทยาศาสตร์การศึกษา
- ตัวอย่าง: การศึกษาผลของวิธีการสอนแบบใหม่ต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
- วิธีการ: แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มต่างๆ สอนนักเรียนกลุ่มหนึ่งด้วยวิธีการสอนแบบใหม่ อีกกลุ่มสอนด้วยวิธีการสอนแบบเดิม เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างกลุ่ม
4. สาขาวิทยาศาสตร์สังคม
- ตัวอย่าง: การศึกษาผลของการโฆษณาต่อพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภค
- วิธีการ: แสดงโฆษณาผลิตภัณฑ์ชนิดหนึ่งแก่กลุ่มผู้บริโภคกลุ่มหนึ่ง อีกกลุ่มไม่แสดงโฆษณา สังเกตพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภค เปรียบเทียบผลลัพธ์ระหว่างกลุ่ม
5. สาขาวิศวกรรมศาสตร์
- ตัวอย่าง: การศึกษาผลของวัสดุชนิดใหม่ต่อความแข็งแรงของโครงสร้างอาคาร
- วิธีการ: สร้างโครงสร้างอาคารสองแบบ โครงสร้างแบบหนึ่งใช้วัสดุชนิดใหม่ อีกแบบใช้วัสดุแบบเดิม ทดสอบความแข็งแรงของโครงสร้าง เปรียบเทียบผลลัพธ์ระหว่างแบบ
ข้อดีของการวิจัยเชิงทดลอง
- สามารถหาความสัมพันธ์ของเหตุและผลระหว่างตัวแปรได้
- สามารถควบคุมตัวแปรต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
- ผลลัพธ์ของการทดลองสามารถนำไปสรุปทั่วไปได้
ข้อจำกัดของการวิจัยเชิงทดลอง
- การควบคุมตัวแปรต่างๆ อาจทำได้ยาก
- ผลลัพธ์ของการทดลองอาจไม่สามารถนำไปสรุปทั่วไปได้เสมอไป
- การทดลองบางชนิดอาจใช้เวลานานและมีค่าใช้จ่ายสูง
สรุป
การวิจัยเชิงทดลองเป็นวิธีการวิจัยที่มีประสิทธิภาพในการหาความสัมพันธ์ของเหตุและผลระหว่างตัวแปร ตัวอย่างการวิจัยเชิงทดลองมีหลากหลายสาขาวิชา การวิจัยแต่ละแบบมีวิธีการและข้อจำกัดแตกต่างกัน นักวิจัยควรเลือกวิธีการวิจัยที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของการวิจัย