การวิจัยเชิงปริมาณ เป็นวิธีการวิจัยที่ใช้ตัวเลขและสถิติในการวิเคราะห์ข้อมูล เน้นการวัดผลและทดสอบสมมติฐาน นิยมใช้ในสาขาวิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์ ธุรกิจ และสาขาอื่นๆ
วิธีการวิจัยเชิงปริมาณ:
- กำหนดปัญหา ระบุปัญหาที่ต้องการศึกษา วัตถุประสงค์ และคำถามการวิจัย
- ทบทวนวรรณกรรม ศึกษาข้อมูลงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างกรอบแนวคิดและสมมติฐาน
- ออกแบบการวิจัย กำหนดวิธีการเก็บข้อมูล ประชากร ตัวอย่าง เครื่องมือ และวิธีการวิเคราะห์ข้อมูล
- เก็บข้อมูล เก็บข้อมูลตามวิธีการที่กำหนด เช่น การทำแบบสอบถาม การสัมภาษณ์ การทดลอง
- วิเคราะห์ข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติที่เหมาะสม
- ตีความผล อธิบายผลลัพธ์ของการวิเคราะห์ ตอบคำถามการวิจัย และสรุปผลการวิจัย
ตัวอย่างการวิจัยเชิงปริมาณ:
- การศึกษาผลของโปรแกรมฝึกอบรมต่อประสิทธิภาพการทำงาน
- การเปรียบเทียบความพึงพอใจของลูกค้าระหว่างสองแบรนด์สินค้า
- การวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อความต้องการซื้อสินค้าออนไลน์
ข้อดีของการวิจัยเชิงปริมาณ:
- ให้ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมและวัดผลได้
- สามารถทดสอบสมมติฐานและหาข้อสรุปได้
- ช่วยให้สามารถเปรียบเทียบผลการศึกษาต่าง ๆ ได้
ข้อจำกัดของการวิจัยเชิงปริมาณ:
- อาจละเลยข้อมูลเชิงคุณภาพและบริบทของข้อมูล
- การออกแบบการวิจัยและการวิเคราะห์ข้อมูลอาจมีความซับซ้อน
- ผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์จริงได้เสมอไป
สรุป: การวิจัยเชิงปริมาณเป็นวิธีการวิจัยที่มีประสิทธิภาพในการศึกษาปัญหาต่าง ๆ เหมาะสำหรับการวิจัยที่ต้องการหาคำตอบที่ชัดเจน วัดผลได้ และเปรียบเทียบได้
Related posts:
บทบาทของการอภิปรายในการประเมินความทนทานและความสามารถทั่วไปของผลการวิจัย
ผลกระทบของอคติส่วนตัวต่อการเขียนบรรณานุกรม
บทบาทของการวิจัยในชั้นเรียนในการจัดการกับความเลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ
กลยุทธ์ในการนำเสนอผลการวิจัยอย่างมีประสิทธิภาพต่อผู้อภิปรายหรือผู้ฟังในวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาเอก
ความสำคัญของการทำวิจัยอย่างละเอียดและครอบคลุมสำหรับโครงร่างการวิจัย
การเลือกหัวข้อวิจัยสำหรับปริญญาโท
ผลกระทบของเทคโนโลยีต่อการวิจัยในชั้นเรียน
การสร้างบรรณานุกรมสำหรับเว็บไซต์ของคุณ: คำแนะนำทีละขั้นตอน