1. รูปแบบการศึกษา:
- วิทยานิพนธ์: เน้นการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) มุ่งเน้นการทดสอบสมมติฐาน วิเคราะห์ข้อมูลเชิงสถิติ เพื่อหาข้อสรุปที่ชัดเจน
- สารนิพนธ์ (IS): มีรูปแบบการศึกษาที่หลากหลาย ไม่จำเป็นต้องเป็นการวิจัยเชิงปริมาณ สามารถเป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) กรณีศึกษา (Case Study) หรือการรวบรวมข้อมูลเชิงทฤษฎี (Literature Review)
2. ระดับความลึกของเนื้อหา:
- วิทยานิพนธ์: เนื้อหาเข้มข้น เน้นการวิเคราะห์เชิงลึก เจาะประเด็นเฉพาะเจาะจง นำเสนอผลงานใหม่ หรือต่อยอดจากงานวิจัยที่มีอยู่
- สารนิพนธ์ (IS): เนื้อหาอาจไม่เข้มข้นเท่าวิทยานิพนธ์ เน้นการรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ สังเคราะห์ ประเด็นต่างๆ
3. ระยะเวลาในการศึกษา:
- วิทยานิพนธ์: ใช้เวลานานกว่า โดยทั่วไป 1-2 ปี
- สารนิพนธ์ (IS): ใช้เวลาสั้นกว่า โดยทั่วไป 6 เดือน – 1 ปี
4. รูปแบบการนำเสนอ:
- วิทยานิพนธ์: เขียนในรูปแบบงานวิจัย บทความวิชาการ เน้นการนำเสนอข้อมูลเชิงสถิติ อ้างอิงแหล่งข้อมูลอย่างละเอียด
- สารนิพนธ์ (IS): รูปแบบการนำเสนอหลากหลาย ขึ้นอยู่กับประเภทของงาน อาจจะเป็นรายงาน บทความ หรือ Portfolio
5. วัตถุประสงค์:
- วิทยานิพนธ์: มุ่งเน้นการสร้างองค์ความรู้ใหม่ พัฒนาทฤษฎี ทดสอบสมมติฐาน นำเสนอผลงานใหม่
- สารนิพนธ์ (IS): มุ่งเน้นการศึกษา ค้นคว้า วิเคราะห์ สังเคราะห์ ข้อมูล เพื่อความเข้าใจประเด็นปัญหา
หมายเหตุ:
- ความแตกต่างระหว่างวิทยานิพนธ์ กับ สารนิพนธ์ (IS) อาจมีความแตกต่างกันไปในแต่ละหลักสูตร ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของคณะและมหาวิทยาลัย
- นักศึกษาควรศึกษาข้อมูลและข้อกำหนดอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจเลือกทำวิทยานิพนธ์หรือสารนิพนธ์ (IS)
สรุป:
วิทยานิพนธ์ เหมาะสำหรับผู้ต้องการศึกษาต่อยอดในระดับปริญญาเอก เน้นการวิจัยเชิงลึก นำเสนอผลงานใหม่
สารนิพนธ์ (IS) เหมาะสำหรับผู้ต้องการจบการศึกษา เน้นการศึกษา ค้นคว้า วิเคราะห์ สังเคราะห์ ข้อมูล
Related posts:
เจาะลึกโลกแห่งระเบียบวิธีวิจัย
เทคนิคการเขียนบทความสำหรับมือใหม่
คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับกระบวนการวิทยานิพนธ์: จากโครงร่างวิจัยไปจนถึงการสอบป้องกัน
5 คำถามที่คุณต้องถามเกี่ยวกับการจ้างทำวิจัย
การเลือกระหว่างสถิติเชิงพรรณนาและเชิงอนุมานในการวิจัยเชิงปริมาณ
ทฤษฎีลีน (Lean)
บทบาทของระเบียบวิธีวิจัยในการวิเคราะห์เชิงปริมาณ
บทบาทของวิทยานิพนธ์ในการสร้างแนวคิดและทฤษฎีใหม่ในสาขาวิชา