10 แนวคิดในการใช้ทฤษฎีการตัดสินใจ

การตัดสินใจเป็นกระบวนการเลือกระหว่างทางเลือกต่างๆ โดยคำนึงถึงข้อมูลและปัจจัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ การตัดสินใจที่ดีนั้นควรอยู่บนพื้นฐานของเหตุผลและข้อมูลที่มีอยู่อย่างครบถ้วน อย่างไรก็ตาม ในโลกแห่งความเป็นจริง การตัดสินใจมักจะมีความซับซ้อนและมีข้อจำกัดหลายประการ ดังนั้นบทความนี้ได้แนะนำ 10 แนวคิดในการใช้ทฤษฎีการตัดสินใจ โดยการใช้ทฤษฎีการตัดสินใจจึงมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ผู้ตัดสินใจสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทฤษฎีการตัดสินใจเป็นศาสตร์ที่ศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการตัดสินใจ โดยพัฒนาขึ้นจากศาสตร์ต่างๆ เช่น คณิตศาสตร์ สถิติ จิตวิทยา และเศรษฐศาสตร์ แนวคิดในการใช้ทฤษฎีการตัดสินใจมีมากมาย แต่ในที่นี้ขอยกตัวอย่าง 10 แนวคิดที่สำคัญ ดังนี้

1. ระบุปัญหาและเป้าหมาย


แนวคิด “ระบุปัญหาและเป้าหมาย” เป็นแนวคิดพื้นฐานที่สำคัญในกระบวนการตัดสินใจ ขั้นตอนนี้จะช่วยให้ผู้ตัดสินใจสามารถโฟกัสไปที่ประเด็นสำคัญและสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การระบุปัญหา หมายถึง การระบุสิ่งที่ต้องการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลง ปัญหาที่ชัดเจนจะช่วยให้ผู้ตัดสินใจสามารถกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนได้

ตัวอย่างเช่น หากต้องการตัดสินใจเลือกรถยนต์คันใหม่ ปัญหาอาจระบุได้ว่า “ต้องการรถยนต์ที่มีสมรรถนะดี ประหยัดน้ำมัน และราคาไม่แพง”

การกำหนดเป้าหมาย หมายถึง การระบุสิ่งที่ต้องการบรรลุ เป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้ผู้ตัดสินใจสามารถกำหนดทางเลือกและเกณฑ์ในการประเมินทางเลือกต่างๆ ได้

ตัวอย่างเช่น หากระบุปัญหาว่าต้องการรถยนต์ที่มีสมรรถนะดี ประหยัดน้ำมัน และราคาไม่แพง เป้าหมายอาจระบุได้ว่า “ต้องการรถยนต์ที่ตอบสนองความต้องการดังกล่าว”

ประโยชน์ของแนวคิด “ระบุปัญหาและเป้าหมาย”

แนวคิด “ระบุปัญหาและเป้าหมาย” มีประโยชน์ดังนี้

  • ช่วยให้ผู้ตัดสินใจโฟกัสไปที่ประเด็นสำคัญ
  • ช่วยให้ผู้ตัดสินใจสามารถกำหนดทางเลือกและเกณฑ์ในการประเมินทางเลือกต่างๆ ได้
  • ช่วยให้ผู้ตัดสินใจสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ตัวอย่างการนำแนวคิด “ระบุปัญหาและเป้าหมาย” ไปใช้

  • พนักงานฝ่ายบุคคลต้องการตัดสินใจว่าจะจ้างพนักงานใหม่กี่คน พนักงานฝ่ายบุคคลอาจระบุปัญหาว่า “ต้องการจำนวนพนักงานที่เพียงพอต่อความต้องการของแผนก” และเป้าหมายว่า “ต้องการจำนวนพนักงานที่เพียงพอต่อความต้องการของแผนกโดยคำนึงถึงงบประมาณที่มีอยู่”
  • ผู้บริหารต้องการตัดสินใจว่าจะลงทุนในโครงการใหม่หรือไม่ ผู้บริหารอาจระบุปัญหาว่า “ต้องการโครงการที่สามารถสร้างผลตอบแทนให้กับองค์กรได้” และเป้าหมายว่า “ต้องการโครงการที่สามารถสร้างผลตอบแทนให้กับองค์กรโดยคำนึงถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น”

2. รวบรวมข้อมูล


แนวคิด “รวบรวมข้อมูล” เป็นแนวคิดที่สำคัญในกระบวนการตัดสินใจ ข้อมูลเป็นปัจจัยสำคัญในการช่วยให้ผู้ตัดสินใจสามารถประเมินทางเลือกต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การรวบรวมข้อมูล หมายถึง การรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจ ข้อมูลอาจมาจากแหล่งต่างๆ เช่น

  • ข้อมูลภายในองค์กร เช่น ข้อมูลการขาย ข้อมูลต้นทุน ข้อมูลลูกค้า เป็นต้น
  • ข้อมูลภายนอกองค์กร เช่น ข้อมูลทางสถิติ ข้อมูลการวิจัย ข้อมูลคู่แข่ง เป็นต้น

ประโยชน์ของแนวคิด “รวบรวมข้อมูล”

แนวคิด “รวบรวมข้อมูล” มีประโยชน์ดังนี้

  • ช่วยให้ผู้ตัดสินใจสามารถประเมินทางเลือกต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ช่วยให้ผู้ตัดสินใจสามารถลดความเสี่ยงในการตัดสินใจ
  • ช่วยให้ผู้ตัดสินใจสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจมากขึ้น

ตัวอย่างการนำแนวคิด “รวบรวมข้อมูล” ไปใช้

  • พนักงานฝ่ายบุคคลต้องการตัดสินใจว่าจะจ้างพนักงานใหม่กี่คน พนักงานฝ่ายบุคคลอาจรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับความต้องการพนักงานของแผนก ข้อมูลเกี่ยวกับงบประมาณที่มีอยู่ เป็นต้น
  • ผู้บริหารต้องการตัดสินใจว่าจะลงทุนในโครงการใหม่หรือไม่ ผู้บริหารอาจรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับจากโครงการ ข้อมูลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุน เป็นต้น

3. กำหนดทางเลือก

แนวคิด “กำหนดทางเลือก” เป็นแนวคิดที่สำคัญในกระบวนการตัดสินใจ ขั้นตอนนี้จะช่วยให้ผู้ตัดสินใจสามารถพิจารณาทางเลือกต่างๆ ได้อย่างรอบคอบและสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การกำหนดทางเลือก หมายถึง การระบุทางเลือกต่างๆ ที่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ ทางเลือกควรมีความหลากหลายและครอบคลุมทุกประเด็นที่เกี่ยวข้อง

ประโยชน์ของแนวคิด “กำหนดทางเลือก”

แนวคิด “กำหนดทางเลือก” มีประโยชน์ดังนี้

  • ช่วยให้ผู้ตัดสินใจสามารถพิจารณาทางเลือกต่างๆ ได้อย่างรอบคอบ
  • ช่วยให้ผู้ตัดสินใจสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • ช่วยให้ผู้ตัดสินใจสามารถลดความเสี่ยงในการตัดสินใจ

ตัวอย่างการนำแนวคิด “กำหนดทางเลือก” ไปใช้

  • พนักงานฝ่ายบุคคลต้องการตัดสินใจว่าจะจ้างพนักงานใหม่กี่คน พนักงานฝ่ายบุคคลอาจกำหนดทางเลือกต่างๆ เช่น จ้างพนักงานใหม่ 1 คน จ้างพนักงานใหม่ 2 คน จ้างพนักงานใหม่ 3 คน เป็นต้น
  • ผู้บริหารต้องการตัดสินใจว่าจะลงทุนในโครงการใหม่หรือไม่ ผู้บริหารอาจกำหนดทางเลือกต่างๆ เช่น ลงทุนในโครงการใหม่ 1 โครงการ ลงทุนในโครงการใหม่ 2 โครงการ ลงทุนในโครงการใหม่ 3 โครงการ เป็นต้น

เทคนิคในการกำหนดทางเลือก

ในการกำหนดทางเลือก ผู้ตัดสินใจอาจใช้เทคนิคต่างๆ ดังนี้

  • การ brainstorming เป็นการระดมความคิดอย่างอิสระเพื่อหาทางเลือกต่างๆ โดยไม่จำกัดความคิด
  • การคิดนอกกรอบ เป็นการคิดนอกกรอบจากความคิดเดิมๆ เพื่อหาทางเลือกใหม่ๆ
  • การจำลองสถานการณ์ เป็นการจำลองสถานการณ์ต่างๆ เพื่อพิจารณาทางเลือกต่างๆ ได้อย่างรอบคอบ

ผู้ตัดสินใจควรเลือกใช้เทคนิคที่เหมาะสมกับสถานการณ์และปัจจัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถกำหนดทางเลือกได้หลากหลายและครอบคลุมทุกประเด็นที่เกี่ยวข้อง

4. ประเมินทางเลือก


แนวคิด “ประเมินทางเลือก” เป็นแนวคิดที่สำคัญในกระบวนการตัดสินใจ ขั้นตอนนี้จะช่วยให้ผู้ตัดสินใจสามารถเปรียบเทียบทางเลือกต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม

การประเมินทางเลือก หมายถึง การเปรียบเทียบทางเลือกต่างๆ โดยใช้เกณฑ์ที่ชัดเจน เกณฑ์ที่ใช้ประเมินอาจแตกต่างกันไปตามสถานการณ์และปัจจัยที่เกี่ยวข้อง เช่น

  • ประโยชน์ที่ได้รับ หมายถึง ผลลัพธ์หรือผลกระทบเชิงบวกที่จะได้รับจากทางเลือกนั้นๆ
  • ต้นทุนที่ต้องจ่าย หมายถึง ทรัพยากรหรือค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเพื่อดำเนินการตามทางเลือกนั้นๆ
  • ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น หมายถึง โอกาสที่ทางเลือกนั้นๆ อาจไม่บรรลุเป้าหมายหรือก่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบ

ประโยชน์ของแนวคิด “ประเมินทางเลือก”

แนวคิด “ประเมินทางเลือก” มีประโยชน์ดังนี้

  • ช่วยให้ผู้ตัดสินใจสามารถเปรียบเทียบทางเลือกต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ช่วยให้ผู้ตัดสินใจสามารถตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม
  • ช่วยให้ผู้ตัดสินใจสามารถลดความเสี่ยงในการตัดสินใจ

ตัวอย่างการนำแนวคิด “ประเมินทางเลือก” ไปใช้

  • พนักงานฝ่ายบุคคลต้องการตัดสินใจว่าจะจ้างพนักงานใหม่กี่คน พนักงานฝ่ายบุคคลอาจใช้เกณฑ์ในการประเมิน เช่น จำนวนพนักงานที่เพียงพอต่อความต้องการของแผนก งบประมาณที่มีอยู่ เป็นต้น
  • ผู้บริหารต้องการตัดสินใจว่าจะลงทุนในโครงการใหม่หรือไม่ ผู้บริหารอาจใช้เกณฑ์ในการประเมิน เช่น ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับจากการลงทุน ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุน เป็นต้น

เทคนิคในการประเมินทางเลือก

ในการประเมินทางเลือก ผู้ตัดสินใจอาจใช้เทคนิคต่างๆ ดังนี้

  • การเปรียบเทียบเชิงปริมาณ เป็นการเปรียบเทียบทางเลือกต่างๆ โดยใช้ตัวเลขหรือค่าต่างๆ เป็นตัวชี้วัด
  • การเปรียบเทียบเชิงคุณภาพ เป็นการเปรียบเทียบทางเลือกต่างๆ โดยใช้คำอธิบายหรือความคิดเห็นเป็นตัวชี้วัด
  • การเปรียบเทียบหลายเกณฑ์ เป็นการเปรียบเทียบทางเลือกต่างๆ โดยใช้เกณฑ์หลายอย่างร่วมกัน

ผู้ตัดสินใจควรเลือกใช้เทคนิคที่เหมาะสมกับสถานการณ์และปัจจัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถประเมินทางเลือกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5. เลือกทางเลือกที่ดีที่สุด

แนวคิด “เลือกทางเลือกที่ดีที่สุด” เป็นแนวคิดที่สำคัญในกระบวนการตัดสินใจ ขั้นตอนนี้จะช่วยให้ผู้ตัดสินใจสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้

การเลือกทางเลือกที่ดีที่สุด หมายถึง การเลือกทางเลือกที่ตรงกับเกณฑ์ที่ใช้ในการประเมินมากที่สุด

ประโยชน์ของแนวคิด “เลือกทางเลือกที่ดีที่สุด”

แนวคิด “เลือกทางเลือกที่ดีที่สุด” มีประโยชน์ดังนี้

  • ช่วยให้ผู้ตัดสินใจสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ช่วยให้ผู้ตัดสินใจสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้
  • ช่วยให้ผู้ตัดสินใจสามารถลดความเสี่ยงในการตัดสินใจ

ตัวอย่างการนำแนวคิด “เลือกทางเลือกที่ดีที่สุด” ไปใช้

  • พนักงานฝ่ายบุคคลต้องการตัดสินใจว่าจะจ้างพนักงานใหม่กี่คน พนักงานฝ่ายบุคคลอาจเลือกทางเลือกที่จำนวนพนักงานที่เพียงพอต่อความต้องการของแผนก โดยคำนึงถึงงบประมาณที่มีอยู่
  • ผู้บริหารต้องการตัดสินใจว่าจะลงทุนในโครงการใหม่หรือไม่ ผู้บริหารอาจเลือกทางเลือกที่คาดว่าจะได้รับผลตอบแทนสูงสุด โดยคำนึงถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุน

เทคนิคในการเลือกทางเลือกที่ดีที่สุด

ในการเลือกทางเลือกที่ดีที่สุด ผู้ตัดสินใจอาจใช้เทคนิคต่างๆ ดังนี้

  • การเปรียบเทียบเชิงปริมาณ เป็นการเปรียบเทียบทางเลือกต่างๆ โดยใช้ตัวเลขหรือค่าต่างๆ เป็นตัวชี้วัด
  • การเปรียบเทียบเชิงคุณภาพ เป็นการเปรียบเทียบทางเลือกต่างๆ โดยใช้คำอธิบายหรือความคิดเห็นเป็นตัวชี้วัด
  • การเปรียบเทียบหลายเกณฑ์ เป็นการเปรียบเทียบทางเลือกต่างๆ โดยใช้เกณฑ์หลายอย่างร่วมกัน

ผู้ตัดสินใจควรเลือกใช้เทคนิคที่เหมาะสมกับสถานการณ์และปัจจัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถเลือกทางเลือกที่ดีที่สุดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

6. ดำเนินการตามทางเลือกที่เลือก

แนวคิด “ดำเนินการตามทางเลือกที่เลือก” เป็นแนวคิดที่สำคัญในกระบวนการตัดสินใจ ขั้นตอนนี้จะช่วยให้ผู้ตัดสินใจสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้

การดำเนินการตามทางเลือกที่เลือก หมายถึง การนำทางเลือกที่เลือกไปปฏิบัติเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้

ประโยชน์ของแนวคิด “ดำเนินการตามทางเลือกที่เลือก”

แนวคิด “ดำเนินการตามทางเลือกที่เลือก” มีประโยชน์ดังนี้

  • ช่วยให้ผู้ตัดสินใจสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้
  • ช่วยให้ผู้ตัดสินใจสามารถตอบสนองความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
  • ช่วยให้ผู้ตัดสินใจสามารถสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าหรือผู้บริโภค

ตัวอย่างการนำแนวคิด “ดำเนินการตามทางเลือกที่เลือก” ไปใช้

  • พนักงานฝ่ายบุคคลต้องการตัดสินใจว่าจะจ้างพนักงานใหม่กี่คน พนักงานฝ่ายบุคคลอาจตัดสินใจเลือกทางเลือกที่จำนวนพนักงานที่เพียงพอต่อความต้องการของแผนก โดยคำนึงถึงงบประมาณที่มีอยู่ จากนั้นจึงดำเนินการจ้างพนักงานใหม่ตามจำนวนที่ตัดสินใจไว้
  • ผู้บริหารต้องการตัดสินใจว่าจะลงทุนในโครงการใหม่หรือไม่ ผู้บริหารอาจตัดสินใจเลือกทางเลือกที่คาดว่าจะได้รับผลตอบแทนสูงสุด โดยคำนึงถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุน จากนั้นจึงดำเนินการลงทุนในโครงการใหม่ตามทางเลือกที่ตัดสินใจไว้

แนวคิด “ดำเนินการตามทางเลือกที่เลือก” เป็นแนวคิดที่สำคัญในกระบวนการตัดสินใจ ผู้ตัดสินใจควรดำเนินการตามทางเลือกที่เลือกอย่างรอบคอบและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้

เทคนิคในการดำเนินการตามทางเลือกที่เลือก

ในการดำเนินการตามทางเลือกที่เลือก ผู้ตัดสินใจอาจใช้เทคนิคต่างๆ ดังนี้

  • การวางแผน เป็นการวางแผนขั้นตอนในการดำเนินการตามทางเลือกที่เลือก
  • การจัดสรรทรัพยากร เป็นการจัดสรรทรัพยากรที่จำเป็นในการดำเนินการตามทางเลือกที่เลือก
  • การติดตามและประเมินผล เป็นการติดตามและประเมินผลการดำเนินการตามทางเลือกที่เลือก เพื่อให้สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้

ผู้ตัดสินใจควรเลือกใช้เทคนิคที่เหมาะสมกับสถานการณ์และปัจจัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถดำเนินการตามทางเลือกที่เลือกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

7. ประเมินผลการตัดสินใจ

แนวคิด “ประเมินผลการตัดสินใจ” เป็นแนวคิดที่สำคัญในกระบวนการตัดสินใจ ขั้นตอนนี้จะช่วยให้ผู้ตัดสินใจสามารถเรียนรู้จากการตัดสินใจที่ผ่านมาและปรับปรุงการตัดสินใจในอนาคต

การประเมินผลการตัดสินใจ หมายถึง การประเมินผลการตัดสินใจหลังจากดำเนินการตามทางเลือกที่เลือกแล้ว เพื่อตรวจสอบว่าการตัดสินใจนั้นประสบความสำเร็จหรือไม่ หากไม่ประสบความสำเร็จ ผู้ตัดสินใจอาจต้องมีการแก้ไขการตัดสินใจ

ประโยชน์ของแนวคิด “ประเมินผลการตัดสินใจ”

แนวคิด “ประเมินผลการตัดสินใจ” มีประโยชน์ดังนี้

  • ช่วยให้ผู้ตัดสินใจสามารถเรียนรู้จากการตัดสินใจที่ผ่านมา
  • ช่วยให้ผู้ตัดสินใจปรับปรุงการตัดสินใจในอนาคต
  • ช่วยให้ผู้ตัดสินใจสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ตัวอย่างการนำแนวคิด “ประเมินผลการตัดสินใจ” ไปใช้

  • พนักงานฝ่ายบุคคลต้องการตัดสินใจว่าจะจ้างพนักงานใหม่กี่คน พนักงานฝ่ายบุคคลอาจตัดสินใจเลือกทางเลือกที่จำนวนพนักงานที่เพียงพอต่อความต้องการของแผนก โดยคำนึงถึงงบประมาณที่มีอยู่ จากนั้นดำเนินการจ้างพนักงานใหม่ตามจำนวนที่ตัดสินใจไว้ จากนั้นจึงติดตามและประเมินผลการทำงานของพนักงานใหม่ว่าเป็นไปตามที่คาดหวังหรือไม่ หากไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง พนักงานฝ่ายบุคคลอาจต้องมีการแก้ไขการตัดสินใจ เช่น ปรับจำนวนพนักงานใหม่ให้เหมาะสมกับความต้องการ หรือเพิ่มงบประมาณในการจ้างพนักงานใหม่
  • ผู้บริหารต้องการตัดสินใจว่าจะลงทุนในโครงการใหม่หรือไม่ ผู้บริหารอาจตัดสินใจเลือกทางเลือกที่คาดว่าจะได้รับผลตอบแทนสูงสุด โดยคำนึงถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุน จากนั้นดำเนินการลงทุนในโครงการใหม่ตามทางเลือกที่ตัดสินใจไว้ จากนั้นจึงติดตามและประเมินผลผลตอบแทนจากการลงทุนว่าเป็นไปตามที่คาดหวังหรือไม่ หากไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ผู้บริหารอาจต้องมีการแก้ไขการตัดสินใจ เช่น ปรับแผนการลงทุน หรือระงับการลงทุน

แนวคิด “ประเมินผลการตัดสินใจ” เป็นแนวคิดที่สำคัญในกระบวนการตัดสินใจ ผู้ตัดสินใจควรประเมินผลการตัดสินใจอย่างรอบคอบและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถเรียนรู้จากการตัดสินใจที่ผ่านมาและปรับปรุงการตัดสินใจในอนาคต

8. เรียนรู้จากประสบการณ์

การเรียนรู้จากประสบการณ์เป็นกระบวนการที่บุคคลนำเอาประสบการณ์ของตนเองหรือผู้อื่นมาใช้ในการตัดสินใจครั้งต่อไป การเรียนรู้จากประสบการณ์สามารถทำได้หลายวิธี เช่น การสังเกต การสะท้อนคิด การพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้อื่น และการทำกิจกรรมจำลอง

การเรียนรู้จากประสบการณ์มีประโยชน์ต่อผู้ตัดสินใจหลายประการ ดังนี้

  • ช่วยให้ผู้ตัดสินใจเข้าใจบริบทและสถานการณ์ของการตัดสินใจได้ดีขึ้น ประสบการณ์จากการตัดสินใจครั้งที่ผ่านมาจะช่วยให้ผู้ตัดสินใจเข้าใจถึงปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจ เช่น ข้อมูล เงื่อนไข เป้าหมาย และข้อจำกัดต่างๆ
  • ช่วยให้ผู้ตัดสินใจมีทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้น ประสบการณ์จากการตัดสินใจครั้งที่ผ่านมาจะช่วยให้ผู้ตัดสินใจมองเห็นทางเลือกใหม่ๆ ที่จะนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายได้
  • ช่วยให้ผู้ตัดสินใจตัดสินใจได้อย่างรอบคอบและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ประสบการณ์จากการตัดสินใจครั้งที่ผ่านมาจะช่วยให้ผู้ตัดสินใจสามารถประเมินผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ของทางเลือกต่างๆ ได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

การเรียนรู้จากประสบการณ์ของตนเองและจากผู้อื่นจะช่วยให้ผู้ตัดสินใจสามารถพัฒนาทักษะการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยผู้ตัดสินใจควรให้ความสำคัญกับการเรียนรู้จากประสบการณ์ของตนเอง เช่น บันทึกและวิเคราะห์การตัดสินใจครั้งที่ผ่านมาของตนเอง เพื่อหาข้อดีและข้อเสียของการตัดสินใจแต่ละครั้ง และเรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้อื่น เช่น พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้อื่นเกี่ยวกับการตัดสินใจของพวกเขา เพื่อรับฟังมุมมองที่หลากหลาย

ตัวอย่างการเรียนรู้จากประสบการณ์ เช่น

  • นักเรียนที่เรียนวิชาคณิตศาสตร์ ได้เรียนรู้การแก้ปัญหาโจทย์คณิตศาสตร์จากครูผู้สอน เมื่อนักเรียนได้ลงมือทำโจทย์คณิตศาสตร์ด้วยตัวเอง นักเรียนก็จะเข้าใจกระบวนการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ได้ดีขึ้น
  • พนักงานขายที่มีประสบการณ์ ได้เรียนรู้วิธีการขายสินค้าจากเพื่อนร่วมงาน เมื่อพนักงานขายได้ลงมือขายสินค้าด้วยตัวเอง พนักงานขายก็จะเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น
  • ผู้บริหารที่มีประสบการณ์ ได้เรียนรู้วิธีการบริหารงานจากผู้บริหารรุ่นก่อน เมื่อผู้บริหารได้ลงมือบริหารงานด้วยตัวเอง ผู้บริหารก็จะเข้าใจปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ในการทำงานได้ดีขึ้น

การเรียนรู้จากประสบการณ์เป็นกระบวนการสำคัญในการพัฒนาทักษะการตัดสินใจของผู้ตัดสินใจ การเรียนรู้จากประสบการณ์อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ผู้ตัดสินใจสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในอนาคต

9. ยอมรับความเสี่ยง

การตัดสินใจใดๆ ก็ตามย่อมมีความเสี่ยง ผู้ตัดสินใจควรยอมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและเตรียมแผนรับมือกับความเสี่ยงเหล่านั้น

ความเสี่ยง คือ เหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นและส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์ของการตัดสินใจ ความเสี่ยงสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

  • ความเสี่ยงเชิงบวก คือ เหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นและส่งผลดีต่อผลลัพธ์ของการตัดสินใจ
  • ความเสี่ยงเชิงลบ คือ เหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นและส่งผลเสียต่อผลลัพธ์ของการตัดสินใจ

ผู้ตัดสินใจควรพิจารณาถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากทางเลือกต่างๆ ก่อนที่จะตัดสินใจ โดยประเมินโอกาสที่จะเกิดความเสี่ยง และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากความเสี่ยงนั้นๆ หากความเสี่ยงนั้นมีความเป็นไปได้สูงและส่งผลกระทบรุนแรง ผู้ตัดสินใจควรพิจารณาทางเลือกอื่นที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า หรือควรเตรียมแผนรับมือกับความเสี่ยงนั้นๆ

ตัวอย่างการตัดสินใจที่มีความเสี่ยง ได้แก่

  • การลงทุนในธุรกิจใหม่
  • การตัดสินใจทำการตลาดผลิตภัณฑ์ใหม่
  • การตัดสินใจจ้างพนักงานใหม่
  • การตัดสินใจซื้อหรือขายสินทรัพย์

การเตรียมแผนรับมือกับความเสี่ยงจะช่วยให้ผู้ตัดสินใจสามารถลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากความเสี่ยงได้ โดยแผนรับมือกับความเสี่ยงควรระบุถึงมาตรการต่างๆ ที่จะดำเนินการเพื่อลดโอกาสที่จะเกิดความเสี่ยง และมาตรการต่างๆ ที่จะดำเนินการเพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากความเสี่ยง

ตัวอย่างแผนรับมือกับความเสี่ยง ได้แก่

  • การทำประกัน
  • การจัดตั้งกองทุนสำรองเผื่อฉุกเฉิน
  • การพัฒนาระบบควบคุมภายใน
  • การฝึกอบรมพนักงาน

การยอมรับความเสี่ยงและการเตรียมแผนรับมือกับความเสี่ยงเป็นทักษะสำคัญที่จำเป็นสำหรับการตัดสินใจที่ดี ผู้ตัดสินใจควรให้ความสำคัญกับทักษะเหล่านี้ เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดสินใจ

10. ยืดหยุ่น

โลกแห่งความเป็นจริงมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น ผู้ตัดสินใจควรมีความยืดหยุ่นและพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนการตัดสินใจตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

ความยืดหยุ่นทางความคิด คือ ความสามารถในการปรับเปลี่ยนความคิดหรือมุมมองให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ความยืดหยุ่นทางความคิดจะช่วยให้ผู้ตัดสินใจสามารถพิจารณาทางเลือกใหม่ๆ ได้อย่างรอบคอบ และสามารถปรับเปลี่ยนการตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม

ความยืดหยุ่นในการดำเนินการ คือ ความสามารถในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือการกระทำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ความยืดหยุ่นในการดำเนินการจะช่วยให้ผู้ตัดสินใจสามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างทันท่วงที

ตัวอย่างความยืดหยุ่นในการตัดสินใจ เช่น

  • ผู้บริหารตัดสินใจลงทุนในธุรกิจใหม่ แต่หลังจากนั้นไม่นาน สถานการณ์ทางเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไป ทำให้ผู้บริหารต้องปรับเปลี่ยนแผนการลงทุน
  • แพทย์ตัดสินใจให้การรักษาผู้ป่วย แต่หลังจากนั้นไม่นาน ผู้ป่วยมีอาการเปลี่ยนแปลงไป ทำให้แพทย์ต้องปรับเปลี่ยนแผนการรักษา

ผู้ตัดสินใจที่มีความยืดหยุ่นจะสามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถบรรลุเป้าหมายได้สำเร็จ

ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับในการพัฒนาความยืดหยุ่นในการตัดสินใจ

  • เปิดใจรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง
  • พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
  • ไม่ยึดติดกับความคิดเดิมๆ
  • พร้อมที่จะปรับเปลี่ยนแผนเมื่อจำเป็น

การพัฒนาความยืดหยุ่นในการตัดสินใจเป็นทักษะสำคัญที่จำเป็นสำหรับความสำเร็จในยุคปัจจุบัน ผู้ตัดสินใจควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะนี้ เพื่อสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

10 แนวคิดในการใช้ทฤษฎีการตัดสินใจ เหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของแนวคิดในการใช้ทฤษฎีการตัดสินใจ ผู้ตัดสินใจควรพิจารณาเลือกใช้แนวคิดที่เหมาะสมกับสถานการณ์และปัจจัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ