การวิจัยและพัฒนา(R&D) หมายถึง กระบวนการในการค้นหาความรู้ใหม่หรือพัฒนาความรู้ที่มีอยู่เดิมให้ดีขึ้น โดยการประยุกต์ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนา(R&D)ที่ใช้ในการเลื่อนวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ(คศ.4) เป็นกระบวนการ R&D มีความสำคัญต่อการพัฒนาวิชาชีพครู เนื่องจากช่วยให้ครูสามารถพัฒนาความรู้ ทักษะ และความสามารถของตนเองให้สูงขึ้น สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมการเรียนรู้ใหม่ๆ เพื่อพัฒนาผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในระบบการประเมินวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู วิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ(คศ.4) กำหนดให้ครูต้องมีผลงานการวิจัยและพัฒนา(R&D) ซึ่งผลงานดังกล่าวต้องแสดงให้เห็นถึงความสามารถของครูในการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลดีต่อการพัฒนาผู้เรียน
วัตถุประสงค์
วัตถุประสงค์ของการวิจัยและพัฒนา(R&D) ที่ใช้ในการเลื่อนวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ(คศ.4) มีดังนี้
- เพื่อพัฒนาความรู้ ทักษะ และความสามารถของครูในการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้
- เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมการเรียนรู้ใหม่ๆ ที่ช่วยพัฒนาผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาของชาติ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วัตถุประสงค์ของการวิจัยและพัฒนา(R&D) ที่ใช้ในการเลื่อนวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ(คศ.4) ในส่วนของการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ มีดังนี้
- เพื่อพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
- เพื่อพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา
- เพื่อพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างลึกซึ้ง
- เพื่อพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ที่สามารถนำไปใช้จริงได้
เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว ครูควรดำเนินการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ตามแนวทางที่กำหนดไว้ในบทความวิจัยนี้ โดยเริ่มต้นจากการสำรวจสภาพปัญหาและความต้องการในการพัฒนาผู้เรียน จากนั้นจึงออกแบบ พัฒนา และประเมินผลนวัตกรรมการเรียนรู้อย่างรอบคอบ เพื่อให้นวัตกรรมการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพและส่งผลดีต่อการพัฒนาผู้เรียน
เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการวิจัยและพัฒนา(R&D) ที่ใช้ในการเลื่อนวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ(คศ.4) มีหลายชิ้นงาน โดยสามารถสรุปได้ดังนี้
- เอกสารคู่มือการเลื่อนวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู วิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ(คศ.4) ได้กำหนดเกณฑ์การตัดสินด้านผลงานทางวิชาการ หมวดหมู่ผลงานการวิจัยและพัฒนา(R&D) ไว้ว่า ผลงานการวิจัยและพัฒนา(R&D) ต้องเป็นผลงานที่สะท้อนถึงความสามารถของครูในการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลดีต่อการพัฒนาผู้เรียน
- งานวิจัยของ ดร.สุภัทร จำปาทอง (2564) พบว่า นวัตกรรมการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพควรมีลักษณะดังนี้
- มุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
- สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา
- ส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างลึกซึ้ง
- สามารถนำไปใช้จริงได้
- งานวิจัยของ ดร.จุฬารัตน์ ชูตระกูล (2565) พบว่า การวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา โดยนวัตกรรมการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นสามารถนำไปใช้ในการแก้ปัญหาและพัฒนาผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จากเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง สรุปได้ว่า การวิจัยและพัฒนา(R&D) ที่ใช้ในการเลื่อนวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ(คศ.4) ควรมุ่งเน้นไปที่การวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลดีต่อการพัฒนาผู้เรียน โดยนวัตกรรมการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพควรมีลักษณะดังนี้
- มุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
- สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา
- ส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างลึกซึ้ง
- สามารถนำไปใช้จริงได้
แนวทาง การวิจัยและพัฒนา(R&D) ที่ใช้ในการเลื่อนวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ(คศ.4)
ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 การวิเคราะห์สภาพปัญหา
เป็นขั้นตอนสำคัญในการวิจัยและพัฒนา(R&D) ที่ใช้ในการเลื่อนวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ(คศ.4) ครูควรเริ่มต้นจากการสำรวจสภาพปัญหาและความต้องการในการพัฒนาผู้เรียน โดยอาจใช้วิธีการต่างๆ เช่น การสังเกต การสัมภาษณ์ การสอบถามความคิดเห็นของผู้เรียน ผู้ปกครอง และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง
ในการสำรวจสภาพปัญหา ครูควรพิจารณาประเด็นต่างๆ ดังนี้
- เป้าหมายการเรียนรู้ที่ต้องการบรรลุ
- บริบทของสถานศึกษา เช่น นักเรียน ครู ผู้บริหาร ทรัพยากร สภาพแวดล้อม
- ความต้องการในการพัฒนาผู้เรียน เช่น ทักษะ ความรู้ ความสามารถ
- ปัญหาหรืออุปสรรคที่ขัดขวางการเรียนรู้
การสำรวจสภาพปัญหาอย่างรอบคอบจะช่วยให้ครูเข้าใจสภาพปัญหาและความต้องการในการพัฒนาผู้เรียนได้อย่างแท้จริง ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการกำหนดแนวทางการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ต่อไป
ตัวอย่างวิธีการในการสำรวจสภาพปัญหา เช่น
- การสังเกต ครูสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนในระหว่างการจัดการเรียนรู้ เช่น ความสนใจ ความกระตือรือร้น ความเข้าใจในเนื้อหา เป็นต้น
- การสัมภาษณ์ ครูสัมภาษณ์ผู้เรียน ผู้ปกครอง และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง เพื่อสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับการเรียนรู้ของผู้เรียน เช่น ปัญหาหรืออุปสรรคที่พบ ความต้องการในการพัฒนา เป็นต้น
- การสอบถามความคิดเห็น ครูจัดทำแบบสอบถามเพื่อสอบถามความคิดเห็นของผู้เรียน ผู้ปกครอง และบุคลากรที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการเรียนรู้ของผู้เรียน เช่น ปัญหาหรืออุปสรรคที่พบ ความต้องการในการพัฒนา เป็นต้น
เมื่อครูได้ข้อมูลจากการสำรวจสภาพปัญหาแล้ว ควรนำมาวิเคราะห์อย่างรอบคอบ เพื่อระบุปัญหาหรืออุปสรรคที่ขัดขวางการเรียนรู้ของผู้เรียน ซึ่งจะเป็นข้อมูลสำคัญในการกำหนดแนวทางการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ต่อไป
ขั้นตอนที่ 2 การออกแบบนวัตกรรมการเรียนรู้
เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการนำไปสู่การพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ การออกแบบนวัตกรรมการเรียนรู้ที่ดีควรคำนึงถึงองค์ประกอบต่างๆ ของนวัตกรรมการเรียนรู้อย่างครบถ้วน โดยองค์ประกอบต่างๆ ของนวัตกรรมการเรียนรู้มีดังนี้
- เป้าหมาย เป้าหมายของนวัตกรรมการเรียนรู้ควรสอดคล้องกับสภาพปัญหาและความต้องการในการพัฒนาผู้เรียน โดยเป้าหมายควรมีความชัดเจน เป็นรูปธรรม measurable (สามารถวัดผลได้) attainable (สามารถบรรลุได้) relevant (มีความเกี่ยวข้อง) และ time-bound (มีกำหนดเวลา)
- เนื้อหา เนื้อหาของนวัตกรรมการเรียนรู้ควรมีความสอดคล้องกับเป้าหมายของนวัตกรรมการเรียนรู้ โดยเนื้อหาควรมีความถูกต้อง ทันสมัย ครบถ้วน และน่าสนใจ
- กิจกรรม กิจกรรมของนวัตกรรมการเรียนรู้ควรสอดคล้องกับเนื้อหาของนวัตกรรมการเรียนรู้ โดยกิจกรรมควรมีความหลากหลาย กระตุ้นการเรียนรู้ของผู้เรียน และสามารถวัดผลได้
- สื่อการเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ควรสนับสนุนการเรียนรู้ของผู้เรียน โดยสื่อการเรียนรู้ควรมีความน่าสนใจ เข้าใจง่าย และสามารถเข้าถึงได้
- การประเมินผล การประเมินผลควรเป็นกระบวนการที่ต่อเนื่องเพื่อตรวจสอบว่านวัตกรรมการเรียนรู้บรรลุเป้าหมายหรือไม่ โดยการประเมินผลควรมีความหลากหลาย และวัดผลได้
การออกแบบนวัตกรรมการเรียนรู้อาจพิจารณาองค์ประกอบต่างๆ เหล่านี้อย่างครบถ้วน หรืออาจพิจารณาตามความเหมาะสมของนวัตกรรมการเรียนรู้นั้นๆ เช่น หากเป็นนวัตกรรมการเรียนรู้ในรูปแบบสื่อการเรียนรู้ อาจให้ความสำคัญกับองค์ประกอบของสื่อการเรียนรู้เป็นพิเศษ เป็นต้น
ตัวอย่างการออกแบบนวัตกรรมการเรียนรู้
สมมติว่าครูต้องการพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ให้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยครูได้ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพปัญหาและความต้องการในการพัฒนาผู้เรียนแล้ว ครูจึงเริ่มออกแบบนวัตกรรมการเรียนรู้ โดยพิจารณาองค์ประกอบต่างๆ ของนวัตกรรมการเรียนรู้ดังนี้
- เป้าหมาย เป้าหมายของนวัตกรรมการเรียนรู้คือ นักเรียนสามารถคิดวิเคราะห์โจทย์ปัญหาได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ
- เนื้อหา เนื้อหาของนวัตกรรมการเรียนรู้ประกอบด้วย หลักการคิดวิเคราะห์ ประเภทของปัญหา และเทคนิคการคิดวิเคราะห์
- กิจกรรม กิจกรรมของนวัตกรรมการเรียนรู้ประกอบด้วย กิจกรรมกลุ่มย่อย เกม และกิจกรรมเสวนา
- สื่อการเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ของนวัตกรรมการเรียนรู้ประกอบด้วย หนังสือ ใบงาน และสื่อการเรียนรู้ดิจิทัล
- การประเมินผล การประเมินผลของนวัตกรรมการเรียนรู้ประกอบด้วย การประเมินผลระหว่างเรียน และการประเมินผลปลายภาค
การออกแบบนวัตกรรมการเรียนรู้เป็นขั้นตอนที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และทักษะทางวิชาการของครู โดยครูควรศึกษาค้นคว้าข้อมูลและแนวคิดต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการออกแบบนวัตกรรมการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพ
ขั้นตอนที่ 3 การพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้
เป็นขั้นตอนที่ครูนำนวัตกรรมการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้มาสร้างหรือพัฒนาให้เป็นรูปธรรม โดยอาจพิจารณาองค์ประกอบต่างๆ ของนวัตกรรมการเรียนรู้ เช่น เป้าหมาย เนื้อหา กิจกรรม สื่อการเรียนรู้ และการประเมินผล
การพัฒนาเป้าหมาย : เป้าหมายของนวัตกรรมการเรียนรู้อาจปรับเปลี่ยนได้ในระหว่างการพัฒนา เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาและความต้องการในการพัฒนาผู้เรียนที่เปลี่ยนแปลงไป โดยครูควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ความพร้อมของผู้เรียน ความพร้อมของครู และความพร้อมของทรัพยากร
การพัฒนาเนื้อหา : เนื้อหาของนวัตกรรมการเรียนรู้อาจปรับเปลี่ยนได้ในระหว่างการพัฒนา เพื่อให้มีความถูกต้อง ทันสมัย ครบถ้วน และน่าสนใจยิ่งขึ้น โดยครูอาจศึกษาค้นคว้าข้อมูลและแนวคิดใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมาปรับปรุงเนื้อหาของนวัตกรรมการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพ
การพัฒนากิจกรรม : กิจกรรมของนวัตกรรมการเรียนรู้อาจปรับเปลี่ยนได้ในระหว่างการพัฒนา เพื่อให้มีความหลากหลาย กระตุ้นการเรียนรู้ของผู้เรียน และสามารถวัดผลได้ยิ่งขึ้น โดยครูอาจทดลองใช้กิจกรรมต่างๆ กับกลุ่มเป้าหมายเพื่อทดสอบความเหมาะสม
การพัฒนาสื่อการเรียนรู้ : สื่อการเรียนรู้ของนวัตกรรมการเรียนรู้อาจปรับเปลี่ยนได้ในระหว่างการพัฒนา เพื่อให้มีความน่าสนใจ เข้าใจง่าย และสามารถเข้าถึงได้ยิ่งขึ้น โดยครูอาจใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ มาพัฒนาสื่อการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพ
การพัฒนาการประเมินผล : การประเมินผลของนวัตกรรมการเรียนรู้อาจปรับเปลี่ยนได้ในระหว่างการพัฒนา เพื่อให้มีความหลากหลาย และวัดผลได้ยิ่งขึ้น โดยครูอาจใช้เครื่องมือและวิธีการประเมินผลที่หลากหลาย เพื่อตรวจสอบว่านวัตกรรมการเรียนรู้บรรลุเป้าหมายหรือไม่
ตัวอย่างการพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ :
สมมติว่า ครูพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ให้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยครูได้ออกแบบนวัตกรรมการเรียนรู้ไว้แล้ว แต่ในระหว่างการพัฒนาครูพบว่านักเรียนมีความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการคิดวิเคราะห์ไม่เพียงพอ จึงต้องปรับเปลี่ยนเนื้อหาของนวัตกรรมการเรียนรู้ โดยเพิ่มเนื้อหาเกี่ยวกับหลักการคิดวิเคราะห์ให้มากขึ้น นอกจากนี้ ครูยังพบว่ากิจกรรมกลุ่มย่อยไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร จึงปรับเปลี่ยนกิจกรรมกลุ่มย่อยเป็นกิจกรรมโครงงาน เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น
การพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้เป็นขั้นตอนที่ต้องใช้ทักษะทางวิชาการและทักษะทางเทคนิคของครู โดยครูควรศึกษาค้นคว้าข้อมูลและแนวคิดต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพ
ขั้นตอนที่ 4 การประเมินผลนวัตกรรมการเรียนรู้
เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการวัดว่านวัตกรรมการเรียนรู้บรรลุเป้าหมายหรือไม่ โดยการประเมินผลนวัตกรรมการเรียนรู้อาจพิจารณาองค์ประกอบต่างๆ ของนวัตกรรมการเรียนรู้ เช่น เป้าหมาย เนื้อหา กิจกรรม สื่อการเรียนรู้ และการประเมินผล
การประเมินเป้าหมาย : การประเมินเป้าหมายของนวัตกรรมการเรียนรู้ เพื่อตรวจสอบว่านวัตกรรมการเรียนรู้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้หรือไม่ โดยอาจใช้เครื่องมือและวิธีการประเมินที่หลากหลาย เช่น การสังเกต การสัมภาษณ์ การทำแบบสอบถาม และการประเมินผลตามผลงาน
การประเมินเนื้อหา : การประเมินเนื้อหาของนวัตกรรมการเรียนรู้ เพื่อตรวจสอบว่าเนื้อหาของนวัตกรรมการเรียนรู้มีความถูกต้อง ทันสมัย ครบถ้วน และน่าสนใจหรือไม่ โดยอาจใช้เครื่องมือและวิธีการประเมินที่หลากหลาย เช่น การทบทวนโดยผู้เชี่ยวชาญ การประเมินโดยผู้เรียน และการประเมินโดยครู
การประเมินกิจกรรม : การประเมินกิจกรรมของนวัตกรรมการเรียนรู้ เพื่อตรวจสอบว่ากิจกรรมของนวัตกรรมการเรียนรู้มีความหลากหลาย กระตุ้นการเรียนรู้ของผู้เรียน และสามารถวัดผลได้หรือไม่ โดยอาจใช้เครื่องมือและวิธีการประเมินที่หลากหลาย เช่น การสังเกต การสัมภาษณ์ การทำแบบสอบถาม และการประเมินผลตามผลงาน
การประเมินสื่อการเรียนรู้ : การประเมินสื่อการเรียนรู้ของนวัตกรรมการเรียนรู้ เพื่อตรวจสอบว่าสื่อการเรียนรู้มีความน่าสนใจ เข้าใจง่าย และสามารถเข้าถึงได้หรือไม่ โดยอาจใช้เครื่องมือและวิธีการประเมินที่หลากหลาย เช่น การทบทวนโดยผู้เชี่ยวชาญ การประเมินโดยผู้เรียน และการประเมินโดยครู
การประเมินการประเมินผล : การประเมินการประเมินผลของนวัตกรรมการเรียนรู้ เพื่อตรวจสอบว่าการประเมินผลของนวัตกรรมการเรียนรู้มีความหลากหลาย และวัดผลได้หรือไม่ โดยอาจใช้เครื่องมือและวิธีการประเมินที่หลากหลาย เช่น การทบทวนโดยผู้เชี่ยวชาญ การประเมินโดยผู้เรียน และการประเมินโดยครู
ตัวอย่างการประเมินผลนวัตกรรมการเรียนรู้ :
สมมติว่า ครูพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ให้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยครูได้ออกแบบนวัตกรรมการเรียนรู้ไว้แล้ว และนำนวัตกรรมการเรียนรู้ไปใช้กับนักเรียนจริง ครูจึงใช้เครื่องมือและวิธีการประเมินผลต่างๆ เพื่อประเมินนวัตกรรมการเรียนรู้ โดยประเมินเป้าหมายของนวัตกรรมการเรียนรู้พบว่า นักเรียนสามารถคิดวิเคราะห์โจทย์ปัญหาได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ ประเมินเนื้อหาของนวัตกรรมการเรียนรู้พบว่า นักเรียนมีความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการคิดวิเคราะห์เป็นอย่างดี ประเมินกิจกรรมของนวัตกรรมการเรียนรู้พบว่า นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างกระตือรือร้น และประเมินสื่อการเรียนรู้ของนวัตกรรมการเรียนรู้พบว่า นักเรียนเข้าใจเนื้อหาของสื่อการเรียนรู้ได้ง่าย
การประเมินผลนวัตกรรมการเรียนรู้เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการปรับปรุงและพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยครูควรใช้เครื่องมือและวิธีการประเมินที่หลากหลาย เพื่อตรวจสอบว่านวัตกรรมการเรียนรู้บรรลุเป้าหมายหรือไม่
ตัวอย่างผลงานการวิจัยและพัฒนา(R&D) ที่ใช้ในการเลื่อนวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ(คศ.4)
- การพัฒนาสื่อการเรียนรู้สำหรับสอนคณิตศาสตร์โดยใช้เกม
- การพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานสำหรับสอนวิทยาศาสตร์
- การพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
สรุป
การวิจัยและพัฒนา(R&D) เป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนาวิชาชีพครู โดยครูควรนำกระบวนการ R&D ไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลดีต่อการพัฒนาผู้เรียน
ข้อเสนอแนะ
เพื่อให้การวิจัยและพัฒนา(R&D) มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในการทำ การวิจัยและพัฒนา(R&D)ที่ใช้ในการเลื่อนวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ(คศ.4) ครูควรได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สถานศึกษา หน่วยงานต้นสังกัด และหน่วยงานวิจัยและพัฒนาการศึกษา เพื่อให้ครูมีเวลาและทรัพยากรในการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ได้อย่างมีคุณภาพ