สถิติเป็นเครื่องมือสำคัญในการวิจัยเชิงปริมาณ ช่วยให้นักวิจัยสามารถรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล และสรุปผลของการวิจัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลกระทบของสถิติที่ใช้ในการวิจัยนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็นสองด้านหลักๆ คือ
ด้านบวก
สถิติช่วยให้นักวิจัยสามารถค้นพบข้อมูลเชิงลึกใหม่ ๆ เกี่ยวกับปรากฏการณ์หรือปัญหาที่กำลังศึกษาอยู่ ตัวอย่างเช่น การศึกษาวิจัยที่พบว่าการรับประทานผักผลไม้เป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด การศึกษาวิจัยนี้เกิดขึ้นได้จากการใช้สถิติเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณเกี่ยวกับพฤติกรรมการรับประทานอาหารและความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
นอกจากนี้ สถิติยังช่วยให้นักวิจัยสามารถตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผลการวิจัยได้ ตัวอย่างเช่น การศึกษาวิจัยที่พบว่าการรับประทานยาชนิดใหม่สามารถรักษาโรคได้ การศึกษาวิจัยนี้จะต้องได้รับการตรวจสอบอย่างรอบคอบด้วยการใช้สถิติเพื่อตรวจสอบว่าผลการวิจัยมีความน่าเชื่อถือหรือไม่
ด้านลบ
สถิติสามารถถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดได้หากนักวิจัยไม่เข้าใจหลักการและข้อจำกัดของสถิติ เช่น การใช้สถิติเพื่อสรุปผลที่เกินจริงหรือสร้างภาพลวงตาให้กับผู้อ่าน ตัวอย่างเช่น การศึกษาวิจัยที่รายงานว่าการรับประทานอาหารเสริมชนิดใหม่สามารถลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็ว การศึกษาวิจัยนี้อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดเพื่อโน้มน้าวให้ผู้บริโภคซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าว
นอกจากนี้ สถิติอาจถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่เป็นธรรมได้ เช่น การใช้สถิติเพื่อเลือกปฏิบัติหรือกลั่นแกล้งผู้อื่น ตัวอย่างเช่น การใช้สถิติเพื่อกำหนดเกณฑ์ในการรับเข้าทำงาน อาจส่งผลให้ผู้สมัครบางคนถูกปฏิเสธการเข้าทำงานอย่างไม่เป็นธรรม
สรุป
สถิติเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่สามารถนำมาใช้เพื่อประโยชน์หรือโทษได้ ขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบของนักวิจัยในการเลือกใช้สถิติอย่างเหมาะสม และเพื่อให้ผลการวิจัยมีความน่าเชื่อถือและเป็นประโยชน์ต่อสังคม